Travel Travel

อ่านต่อ คลิกที่นี่!
ก็อยากจะแนะนำคุณๆ ทั้งหลาย ให้รู้จักหาความสุข กับวันหยุดอันแสนวิเศษของคุณ

หาหนังดู เต็มอิ่ม เต็มอารมณ์ ที่นี่

"ด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด อย่างรวดเร็วและไม่จำกัด ให้คุณดาวน์โหลดภาพยนตร์ที่คุณชื่นชอบไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์หรือมาร์ทโฟนของคุณทุกที่ทุกเวลา!"
มันเป็นคำแนะนำ ที่ผมได้รับมา สมมุติว่า วันหนึ่ง เราอยากดูหนังสักเรื่อง เราจะค้นหาได้จากที่ไหน ผมว่า ที่นี่แหละ เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ อยากให้คุณลองเข้าไปดู แล้วคุณจะรู้ว่า ผมไม่ได้พูดเกินจริง โหลดหนังได้ทุกที่ ทุกเวลา นับจากนี้ไป คุณจะไม่มีเวลาให้เหงาอีกแล้ว!
" By far, the easiest way to quickly download unlimited movies to your PC or smartphone, anytime anywhere! "

คลิกที่นี่!

คลิกที่นี่!

หากคุณ มีความสุข กับการได้ดูหนัง ที่คุณชอบ กรุณาบอกต่อเพื่อนๆ และคนที่คุณรักด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

หารายได้ผ่านเน็ต No.2

อีกหนึ่งวิธีกับการหารายได้ผ่านเน็ต ผมพยายามบอกคุณ
Click Here!

วิธีหารายได้ผ่านเน็ต No.1

มีหลายคน พยายามหาเงินผ่านเน็ตกันมาก ผมมีวิธี
Click Here!

เรียนรู้กับธุรกิจ seo และ astore: วิธีการทำ astore ง่ายๆ

เรียนรู้กับธุรกิจ seo และ astore: วิธีการทำ astore ง่ายๆ

หลวงพ่อสาย เสก-สั่ง เสาร์ห้า

เสาร์ห้า: วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ 5 เดือนพฤษภาคม เป็นวันที่ครูบาอาจารย์ พระเกจิอาจารย์ ท่านถือว่าเป็นวันแรง เหมาะแก่การปลุกเสก พระเครื่อง-วัตถุมงคลเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าจะทำให้ของที่ปลุกเสกในวันนี้ มีความศักดิ์สิทธิ์มากกว่า่กติหสาไเท่ล

กาวดีๆ

29 เมษายน 2555 : ขอบันทึกไว้ว่า กาวดีๆ ที่ควรใช้แบบนี้ ต้องบอกต่อให้รู้ทั่วกัน กาวนี้ใช้งานได้สารพัด ตามที่ผู้ผลิตกาวนี้ ได้แจ้งไว้ แต่ในบทความนี้ จะบอกถึงข้อดีในการนำมาเป็นตัวยึดเกาะของมวลสาร ในการจัดทำพระเครื่องวัตถุมงคล เราอาจเคยเห็น ล็อกเก็ต และ ตะกรุด ของพระเกจิอาจารย์ท่านต่างๆมาไม่มากก็น้อย บางท่านทำได้สวยงาม ไม่หลุดไม่ร่อน บางท่านก็ร่อนหลุดง่าย โดยฌเฉพาะการนำผงมวลสาร มาอุดไว้ที่ด้านหลัง ล็อกเก็ต และ นำมวลสารมาพอกไว้กับตะกรุด นี่แหละคือสิ่งที่ทำยาก หากทำไม่ดีก็หลุดร่อนออกหมกในเวลาไม่นาน แต่ถ้าเราใช้กาวนี้ เป็นตัวผสาน โดยการนำไปผสมกับมวลสารทั้งหมด แล้วก็อุด หรือพอกเข้าไป รอให้แห้ง คราวนี้ไม่มีหลุด ไม่มีร่อนอีกต่อไป ลองทำดูสิครับ แล้วคุณจะยอมรับ ว่ามันดีจริงๆ

งานใหว้ครู หลวงพ่อสุวรรณ

26 เมษายน 2555 : วันที่ 26 เมษา เป็นวันไหว้ครู สำหรับศิษย์หลวงพ่อสุวรรณ ถิรสทฺโธ วัดยาง อ่างทอง ทุกคน หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียว สำหรับการได้น้อมรำลึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ ถึงแม้ว่าหลวงพ่อสุวรรณ ท่านจะจัดงานไหว้ครูขึ้นในวันพฤหัสแต่ว่า สานุศิษย์ก้ยังคงพร้อมใจกันมาอย่างล้นหลามเหมือนเช่นทุกๆปี นี่ถ้าท่านจัดในวันอาทิตย์ล่ะก็ ผมว่า วัดยาง จะไม่มีที่ให้เดินอย่างแน่นอน เพราะยุคนี้สมัยนี้ มีพระอาจารย์ที่เก่งๆอย่างหลวงพ่อสุวรรณอยู่น้อยมากแล้ว ประชาชนจะหาที่พึ่งพิงได้ยากเหลือเกิน พอมีข่าวว่า หลวงพ่อที่ไหนดี หลวงพี่ที่ไหนเก่ง ก็จะพยายามดิ้นรนพากันไป ขอความเมตตา และก็พบว่า มีหลวงพ่อสุวรรณนี่แหละครับ ที่ช่วยเหลือทุกคนได้จริงๆ โดยเฉพาะเรื่องค้าขาย ท่านจะให้ลูกศิษย์ใช้ตะกรุด และ ผ้ายันต์ธงพัดโบก เรียกลูกค้าเข้าร้าน ก็ปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าตื่นใจ จนได้รับคำพูดที่ทุกคนจดจำได้ก็คือ ถ้ามีตะกรุดหลวงพ่อสุวรรณแล้วล่ะก็

จะค้าขายดีไม่มีเหลือค้างเข่ง

ส่วนเรื่องของการแคล้วคลาดคงกระพันก็ต้องยกให้เป็นเลิศเช่นกัน เพราะตะกรุดของท่านทุกดอก ล้วนแล้วแต่เคยสร้างความงุนงงสงสัยให้เห็นแล้วอย่างมากมาย ทั้งยิงไม่ออก ยิงไม่โดน ยิงไม่เข้า ประสบการณ์เยอะ ข้าราชการตำรวจ ทหาร ที่รู้จักหลวงพ่อสุวรรณ จะต้องมีตะกรุดของท่านกันทุกคน แม้แต่นักการเมือง ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น จนถึง ระดับชาติ ก็ยังพกพาอาศัย ตะกรุด ของหลวงพ่อสุวรรณครับ เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกแต่อย่างใด ที่ในวันไหว้ครูในทุกๆปี เราจะเห็นมีประชาชนเดินทางไปที่วัดยาง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง กันอย่างมากมายทุกปี และนี่ก็คือสิ่งดีๆ ที่อยากจะบอกแก่ทุกๆคนครับ....

หลวงพ่อโต วัดปราโมทย์

29 เมษายน 2555 : หลวงพ่อโตซำปอกง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ แห่งวัดปราโมทย์ อ.บางคนที จ.สมุทรสาคร เป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ประชาชนในจังหวัดสมุทรสงคราม และ จังหวัดราชบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดสมุทรสาคร ให้ความเคารพกันมาก ในทุกๆวัน จะมีประชาชน เดินทางไปกราบไหว้ขอพรจากท่านกันอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะขอได้ในทุกๆเรื่องที่เดือดร้อน เน้นว่าเดือดร้อนนะครับ ใครที่เดือดร้อนท่านจะช่วยก่อนจริงๆ เช่น บางคนอยากขายที่ดิน เพราะมีความเดือดร้อนต้องใช้เงิน อย่างนี้ไปบนบานกันสักครั้งสองครั้งก็สำเร็จ แต่บางคนอยากขายที่ดินได้เหมือนกัน แต่ว่าเพียงแค่ต้องการขายด้วยเหตุผลอื่นๆที่ไม่ได้มีความเดือดร้อน อย่างนี้ก็รอนานหน่อย หรือ บางคนแต่งงานอยู่กินกันมาหลายปี แต่ไม่ยักมีลุกสักที ไปบอกหลวงพ่อโตว่าตนเดือดร้อน เพราะไม่มีลูกไว้สืบสกุล ขอให้หลวงพ่อช่วยส่งเด็กดีมาให้สักคนหนึ่งเถิด อย่างนี้ไม่นานได้ผลแน่นอน หรือบางคน ทำของสำคัญตกหล่นสูญหายไป มีความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง อย่างนี้ไปบอกหลวงพ่อโตเถอะครับ ไม่ผิดหวัง ท่านจะได้ของคืนในไม่ช้า มีประสบการณ์มาเยอะแล้วครับเรื่องนี้ หายห่วง ส่วนเรื่องโชคลาภนั้น ท่านก็จะให้แก่คนที่เดือดร้อนจริงๆเท่านั้น และอีกหลายๆเรื่อง ที่เกิดขึ้นกับหลายๆคน ที่เป็นเรื่องเดือดร้อน แล้วไปขอท่าน ท่านก็ช่วยให้หายเดือดร้อนได้ในเวลาไม่ช้าไม่นาน ในทุกๆปี จะมีการจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโตอยุ่เสมอ และเมื่อถึงงานปี วัดปราโมทย์ทีไร จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มีประชาชนไปร่วมงานกันอย่างเนืองแน่นทุกวันตลอดงาน แม้แต่คนใหญ่คนโต ในบ้านในเมืองเราหลายคน เขาก็ศรัทธา และแวะเวียนไปสักการะหลวงพ่ออยู่เสมอเช่นกัน สำหรับท่านใดจะเดินทางไปวัดปราโมทย์ ก็โทรไปสอบถามเส้นทางได้จากทางวัดนะครับ ไปไม่ยาก ถ้าตั้งใจจริง ไปให้ถึง อัมพวา ก่อน แล้วก็ไปอีกไม่ไกลแล้วล่ะครับ สำหรับเบอร์โทรศัพท์วัดปราโมทย์ก็คือ 032-399-322 และ 081-268-8903 ครับ

น้ำมันว่าน มหานิยมสุดยอด!

29 เมษายน : โชคดีอีกแล้วครับ วันนี้อาจารย์ได้รับของดี ของวิเศษ มาอีกชิ้นหนึ่งแล้วครับ ต้องบอกก่อนว่า เสาะหามานานแล้ว วันนี้ได้เจอครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง เดินทางมาจากจังหวัดพิษณุโลก ท่านบอกว่า เอามาให้อาจารย์โดยเฉพาะเลย เป็นน้ำมันว่านผสมว่านสำคัญๆ ถึง ชนิดครับ ได้แก่ ว่านสาวหลง ว่านรักซ้อนมีดอกและราก ว่านมหาเศรษฐีมีใบและราก ว่านนางล้อมเสน่ห์ร้อยนาง ว่านดอกทอง(รากราคะ) ว่านนางกาหลง(ไช้เฉพาะราก) เมื่อได้ว่านมาครบแล้ว ท่านก็จะเติมน้ำมันว่าน108 ที่หุงเอาไว้ก่อนแล้ว ลงไปอีกเล็กน้อย พร้อมสวดมนต์อีก 999 จบ เพื่อเป็นการเพิ่มพุทธคุณ ให้เข้มขลังสุดๆ ที่สำคัญ น้ำมันว่าน ขวดนี้ ท่านบอกว่าใช้ดีทางเมตตามหานิยมเป็นที่สุด และ ยังใช้ดีทางโชคลาภ และอธิษฐานขอความสำเร็จได้อีกด้วย เรียกว่า เป็นได้ครบดังที่ต้องการเลยทีเดียว ก็ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ไว้ ณ ที่นี้ด้วย ส่วนท่านใด มีความประสงค์ อยากจะได้ของดีแบบนี้บ้าง ให้ติดต่อมาที่อาจารย์อาวุธ นะครับ แต่บอกก่อนว่า ราคาไม่เบานะครับ เพราะเป็นของหายากๆทั้งนั้น บางตัว ต้องรอเป็นปีกว่าจะได้มา เพราะว่านบางชนิดต้องรอ ให้ออกดอก หรือ ให้ได้ตามตำรา ต้องรอกันเป็นปี และที่สำคัญที่สุด ก็คือ ใช้แล้วได้ผลจริงๆ แล้วโทรมาคุยกันนะครับ 089-816-6421 ครับ

April 29: Today I was lucky to get the best of the magic that is looking for a long time. He is one of my teachers. The province of Phitsanulok. Take it from me directly, this oil is an ingredient that is vital to have a total of more than 108 kinds of herbs, it can make a woman that I love. I love the cut flowers and more trees, flowers and roots, such as love nest of leaves and roots, charming wealthy women, one hundred people. Tree of love (lust, the root) when it arrived. You can add more oil into it. We end with a prayer to the dark magic. With a bottle of oil you use a type that is popular and a great way to fortune. And pray for success, working as I want to thank you for this as you want. I would like to have this great, I kind of weapon, but I tell you that expensive because it is rare for them to wait another year to come. I have to wait for some kind of fruit or flowers all year and have been the most important. It really works, then call 089-816-6421.

ยาสัม ยาครอบจักรวาล

ยาส้ม ยาครอบจักรวาล ของพระกรรมฐาน
จากหนังสืออนุสรณ์งานศพ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ก็มีการกล่าวเรื่องยาส้ม โดยคุณสุพล น่าชม ผู้ติดตามอุปัฏฐากท่านกว่า30ปีและเป็นผู้ทำยาส้มให้ท่านอาจารย์ได้กล่าวไว้เรื่องยาส้มอย่างละเอียดมาก ตั้งแต่ส่วนผสม , วิธีทำ , สรพพคุณ , การใช้ ,การเก็บรักษา , หมายเหตุ และสูตรน้ำมันผึ้งซึ่งก็เป็นยาขนานเอกของหลวงปู่ฝั้น เช่นกัน
น้ำมันผึ้ง
น้ำมันผึ้งคือน้ำมันที่กลั่นได้จากขี้ผึ้ง วิธีการกลั่นให้เอาขี้ผึ้งบริสุทธิ์หนักอย่างน้อย 1-2 กิโลกรัม ใส่ไหหรือหม้อ(ทำเหมือนกับวิธีการต้มกลั่นสุรา) แล้วกลั่นด้วยไฟที่ไม่แรงนัก ให้กลายเป็นน้ำมันออกมา เรียกว่าน้ำมันผึ้ง ใช้สำหรับทาแก้โรคต่างๆ น้ำมันที่กลั่นออกมานั้นก่อนใช้ต้องผสมกับน้ำมันอื่นเพิ่มเติมเข้าไปเสียก่อน คือ
1.)น้ำมันงา 2 ส่วน
2.)นำมันเลียงผา 2 หรือ 1 ส่วน
เอาน้ำมันสองอย่างที่กล่าวนี้ผสมกับน้ำมันผึ้งให้เข้ากันสนิท
สรรพคุณ - ใช้ทาแก้ปวดเมื่อย,เคล็ดยอกต่างๆ ใช้รักษาได้ทั้งแผลสด,แผลเปื่อย รักษาโรคกระดูกได้เป็นอย่างดีพิเศษ น้ำมันผึ้งนี้ท่านพระอาจารย์ฝั้นใช้เป็นประจำช่วยชาวบ้านให้หายจากโรคภัยมามากแล้ว
ยาแก้โรคเบาหวาน
ท่าให้เอารากหรือต้นกำแพงเจ็ดชั้น(ตะไก้) มาต้มกินแทนน้ำชา,กินวันละหลายๆครั้ง แล้วจะหาย อนึ่งถ้าชอบกลิ่นหอมให้เอาต้นยาดังกล่าวผ่าเป็นชิ้นบางๆอังไฟหรือปิ้งให้กรอบแล้วจึงต้ม ยาจะมีกลิ่นหอมชวนดื่มเป็นอย่างยิ่ง
ยาส้ม
ส่วนผสม
1.) เกลือ 2.) สารส้ม
3.) ดินปะสิว 4.) จุนสี (หาซื้อได้ตามร้านขายยาแผนโบราณ และ ร้านขายเคมีทั่วไป)
อย่างละเท่าๆกัน อย่างน้อยต้องหนักอย่างละ10บาท (150กรัม) ทั้งนี้สุดแท้แต่ภาชนะที่ใช้กลั่นจะบรรจุได้มากเท่าใด ถ้าภาชนะที่ใช้บรรจุลงได้มากจะเอาอย่างละมากๆก็ได้แต่ต้องให้มีน้ำหนักเท่ากัน ไม่ให้ขาดไม่ให้เกิน
วิธีกลั่น
การต้มกลั่นต้องใช้ภาชนะที่ทนต่อความร้อน ห้ามเอาภาชนะที่เป็นโลหะ เท่าที่ท่านพระอาจารย์ท่านเคยทำท่านใช้ไหกระเทียมสมัยเก่าที่มาจากเมืองจีน หม้อดินก็ใช้ไม่ได้ เมื่อได้ภาชนะที่จะกลั่นมาแล้วก็เอาตัวยาทั้งสี่อย่างบรรจุลงไป ไม่ต้องผสมน้ำ ใช้กลั่นแห้งๆตามสภาพของตัวยาใช้ไหกระเทียมอีกลูกหนึ่งมาเป็นภาชนะรองรับน้ำยา ใช้หลอดแก้วใสเป็นท่อต่อระหว่างปากไหทั้งสอง ถ้าไม่มีหลอดแก้วจะใช้ขวดแก้วขาวตัดก้นออกแทนก็ได้ เอาก้นขวดใส่ทางปากไหที่ใส่ตัวยาเอาปากขวดใส่ทางไหที่รองรับ ปิดปากไหทั้งสองด้วยดินเหนียวที่นวดไว้อย่างดีให้แน่นสนิท การกลั่นต้องรักษาระดับไฟในระยะแรกต้องไม่เร่งไฟให้ร้อนเกินไปอาจทำให้ระเบิดได้ ส่วนไหที่รองรับน้ำยานั้นก็ต้องใช้ความเย็นช่วยโดยเอาผ้าชุบน้ำคลุมไว้แล้วเอาน้ำเย็นรดให้เย็นอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ไอกลายเป็นหยดน้ำและช่วยดูดไอมาจากไหที่กลั่นด้วย
การกลั่นยาส้มนี้ถ้าตัวยามากก็ต้องใช้เวลามากหน่อยกว่ายาจะ"จืด"ก็ต้องเสียเวลาเป็นวันหรือทั้งวันทั้งคืน ถ้าจะดูว่ายาจืดหมดหรือยังให้สังเกตที่หลอดแก้วในตอนแรกๆจะมีควันออกมาเป็นสีขาวๆ เมื่อตัวยาถูกความร้อนจัดเข้าจะละลายแล้วเดือดเต็มที่ ควันในหลอดแก้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองๆ ถ้าเร่งไฟร้อนจัดเกินไป ควันจะเป็นสีเหลืองแก่และแดง ถ้าควันในหลอดแก้วออกเป็นสีแดงเข้มมากเกินไปให้ผ่อนไฟลงหน่อย ถ้าปล่อยนานจะเผาไหม้หมดก่อนและได้น้ำยาน้อย
ขณะกำลังกลั่นยากำลังเดือดและไอกำลังไหลออกมาตามหลอดแก้วนั้น ไหที่รองรับน้ำยาต้องรดน้ำให้เย็นตลอดเวลา ระวังอย่าให้น้ำที่ทำให้เย็นนั้นกระเซ็นไปถูกหลอดแก้ว แก้วจะแตกเสียก่อน เมื่อตัวยาหมดควันในหลอดแก้วจะกลับขาวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อตัวยาหมดแล้วให้ให้ถอยไฟออก เพื่อให้ความร้อนลดลง แล้วจึงค่อยๆแกะดินเหนียวที่หุ้มปากไหออกที่ด้านไหนก็ได้แล้วแต่สะดวก ยกไหที่รองรับน้ำยาออกตั้งไว้ แล้วหาขวดมีจุกเป็นแก้วมาบรรจุตัวยาเก็บไว้ต่อไป
สรรพคุณยาส้ม
อันยาส้มนี้เป็นยาครอบจักรวาล ใช้แก้ได้หลายอย่าง เช่นแผลสดมีดบาดหรือตะปูตำ ใช้สำลีชุบยาส้มป้ายที่แผลแผลจะหาย(แต่ต้องทนแสบเอานิดหน่อย) แผลเปื่อยก็ใช้ได้แต่ไม่ใช่หิดเปื่อยพุพอง แผลเปื่อยพุพองเวลาใส่ยาส้มจะมีอาการแสบ เมื่อหายแสบแล้วแผลจะแห้งตกสะเก็ดหายไปเอง ถ้าจะแก้โรคต่างๆเกี่ยวกับเลือดเป็นต้นว่าสตรีออกลูกแล้วอยู่ไฟไม่ได้หรือคลอดบุตรแล้วเลือดตกมากหรือเป็นมุตกิดระดูขาว,ผอมแห้งแรงน้อย,มักเป็นลมหน้ามืดตาลายฯลฯ ให้ใช้ยาส้มผสมน้ำสะอาด(ถ้าได้น้ำฝนยิ่งดี) พอให้มีรสเปรี้ยวเท่ากับน้ำมะนาวหรืออ่อนกว่านิดหน่อย รับประทานวันละครึ่งถ้วยแก้ววันละสามเวลา รับไปเรื่อยๆจะหายเป็นปกติ โรคเกี่ยวกับสตรีนั้นใช้ได้ผลมาก อนึ่งโรคปวดท้องเกี่ยวกับมดลูกแลอื่นๆใช้เห็นสรรพคุณมามากแล้ว ถ้าเป็นตาแดง,เจ็บตา,ตาแฉะ ให้เอายาส้มผสมน้ำให้มีรสพอรู้สึกเปรี้ยว หยอดตาจะหายเจ็บ,หายแฉะ,หายจากเป็นตาแดง ตามลำดับ

การใช้ยาส้มรักษาโรคภายนอก นอกจากรักษาแผลแล้วยังแก้อสรพิษต่างๆได้ดีอีกด้วย เป็นต้นว่า ตะขาบกัด,แมลงป่องต่อย,ปลาดุกยักษ์ก็เอายาส้มใส่แก้ได้ ถ้าถูกพิษตะขาบหรือแมลงป่องใช้เข็มบ่งปากแผลให้มีเลือดออกนิดหน่อยเสียก่อน แล้วเอายาส้มใส่ที่แผล ความเจ็บปวดและอาการพิษอื่นๆจะหายในทันที
สำหรับแก้ปวดฟันแมงกินฟันรากฟันเน่า ใช้สำลีชุบยาส้มแปะที่รูของฟันหรือรากฟันที่เน่า อาการปวดจะหายเป็นปลิดทิ้ง ฟันเป็นรำมะนาดและลิ้นเป็นซางก็ใช้ยาส้มใส่ได้ผลดี ลิ้นเปื่อยเป็นแผลก็เช่นกัน อนึ่งสำหรับโรคเกี่ยวกับฟันจะใช้กากของยาส้ม(ที่เหลืออยู่ในไหที่ใช้กลั่น)ก็ได้ กากนี้นำมาบดใช้แทนยาสีฟันก็ดี
การเก็บรักษา
ตัวยาส้มเป็นกรดชนิดหนึ่งจะบรรจุในภาชนะที่เป็นโลหะต่างๆไม่ได้ เช่นสังกะสี หรือ ดีบุก ถ้าเอายาส้มใส่จะทะลุภายใน 5 -10นาที ต้องใช้ภาชนะที่เป็นแก้วด้วย อย่าใช้ฝาจุกอย่างอื่นยาจะกัดผุหมด
หมายเหตุ - ถ้ายาส้มหยดถูกเสื้อผ้าให้รีบเอาไปซักน้ำโดยเร็ว มิฉะนั้นผ้าจะขาด การใช้ยาส้มรักษาโรคต่างๆนั้นห้ามใช้ตัวยาล้วนๆ นอกจากใช้รักษาแผลและแก้พิษร้ายต่างๆ ตามธรรมดาต้องเจือน้ำหลายเท่า เวลามีคนมาขอท่านพระอาจารย์มักจะให้ยาที่เจือจางไว้ก่อนแล้ว ไม่ใช่ให้ตัวยาล้วนๆเพราะเกรงว่าเอาไปใช้ไม่ถูกจะเกิดอันตรายขึ้น โดยเฉพาะการใช้ในโรคตาต้องเจือน้ำให้อ่อนที่สุด เพียงมีรสเปรี้ยวนิดหน่อยเท่านั้น
คัดจากหนังสือ "อนุสรณ์งานศพพระอาจารย์ฝั้น อาจารเถระ"
21 มกราคม2521

น้องปัญญ์ อยู่ รพ.

7 เมย. เป็นวันที่3. แล้วที่น้องปัญญ์ต้องนอน รพ.นนทเวช เพราะเป็นไข้-ติดเชื้อ วันแรกหมอต้องเอ็กซเรย์ปอด วิธีก็คือ จับกดลงมัดตัวให้แน่น แล้วถ่าย รวม 3 ครั้ง น้องปัญญ์ ก็ร้องดิ้นตลอดเวลา เสร็จมานั่งรอร่วมชั่วโมง แล้วจึงมาบอกว่าต้องนอน เพราะปอดอักเสบ แต่กว่าจะพาขึ้นห้อง ก็ต้องแจ้งค่าใช้จ่ายก่อน พาขึ้นมา ก็เริ่มที่ พาไปดูดเสลด วิธีก็คือ จับกดแล้วช่วยกันมัดตัวให้แน่น เอาสายยางสอดเข้าจมูก ดูดๆ น้องก็ร้องตลอด นานทีเดียว เสร็จจึงเจาะให้น้ำเกลือ ต้องเจาะ 2 ครั้ง หาเส้นไม่เจอ แสดงว่า ผู้เจาะไร้ความชำนาญ ผู้ป่วยจึงต้องเจ็บ 2 รอบ จากนั้นพามาที่ห้อง พร้อมเปลี่ยนชุด และ เสาน้ำเกลือ สักพักหมอใหญ่มาดู แล้วถามโน่นนี่ ซึ่งเป็นคำถามเดิมคือ มีไอหรือเปล่า ตัวร้อนหรือเปล่า แต่ก่อนจะออกไป หมอบอกว่า เขาจะไม่อยู่ 2 วัน ออ..เราเพิ่งจะรู้ว่า เขารับคนไข้เสร็จแล้วจะไม่อยู่ ให้คนอื่นดูแทน จากนั้นพยาบาลก็วนเวียนกันมา วัดไข้บ้าง เติมยาในสายนำ้เกลือบ้าง ซึ่งจะไม่มีการมาพร้อมกัน แต่จะวนเวียนสับเปลี่ยนกันมา เพื่อให้ดูเหมือนว่า บริการดี แต่ที่จริง มันคือการรบกวนที่สุด เพราะน้องจะร้องทุกครั้ง ที่พวกเขาเข้ามา เพราะกลัว กลัวมากจนแม้ได้ยินเสียงเปิดประตู ก็จะร้องไห้แล้ว ใครเปิดประตูเข้าหรือออก เขาจะหันไปมองดูทันทีว่าเป็นใคร ถ้าเห็นใส่ชุดขาว ก็ร้องจ้าเลย ไม่ว่าจะมาแค่ตรวจเล็กๆน้อยๆก็ตาม กลัวมาก วันแรก 5 เมย.ตัวไม่ร้อนแล้ว แต่ไม่ยอมกินอะไร เพราะพอกินปุ๊บ ก็จะไอ ปั๊บ เลยไม่กล้ากิน ย่ากับพ่อเขามาเยี่ยมเอาตอนใกล้คำ่ สักพักกลับ ย่าเขาอุ้มหน่อย แต่พ่อเขาไม่ ตอนกลับน้องปัญญ์ยกแขนข้างที่พันสายน้ำเกลือ โบกบ๊ายบายพ่อเขา ตาเห็นแล้วน้ำตาซึม แต่ไม่รู้ว่าพ่อเขาจะคิดอะไรบ้าง วันนี้เพื่อนแม่เขามากันตลอด ตาก็อุ้มให้นอนหน้าอก หัวพาดบ่าอยู่เกือบตลอดเวลา กลับไปนอนบ้านตอนห้าทุ่ม แต่คืนนี้น้องก็โดนสอดสายยางดูดเสลดอีกรอบ แม่เขาบอกว่ามีเลือดออก หมอจึงหยุด นี่แสดงว่ามีพลาดอีกแล้วสิ..อาร์มก็เข้าไปดูหลานอยู่ตลอด ทุกคนสงสารน้องปัญญ์มาก ดูเหมือนแค่เรื่องเล็กๆ เป็นไข้ ตัวร้อน เจ็บคอ แต่ดูเหมือนหมอจะคิดว่า อาการหนัก อย่างงั้น เมื่อน้องนอน ตา กับ ยายปุณย์ และอาร์ม กลับไปนอนบัาน..เช้า ตามาแต่เช้า น้องปัญญ์ตื่นเห็นรีบส่งมือให้อุ้มทันที ตาก็เอาไว้กับอกอยู่อย่างนั้น หมอจะพาไปดูดเสลดอีก ตาเห็นว่าน้องไม่ค่อยมีเสลดแล้วจึงบอกไม่ต้อง เขาก็ไม่ว่าอะไร สักพักเอายามาให้กิน ก็ต้องจับมัด จับกรอกกันเหมือนเดิม เพราะน้องปัญญ์ กินยายากมากๆ สายๆ บอกพยาบาลว่า ผ้าเทปที่พันมือตรงที่ให้นำ้เกลือ มันกัดแขนน้องจนแดง และคัน เขาก็มาทำให้ น้องได้หลับยาว 11 โมง ถึงเที่ยงครึ่ง ก็ตื่นมาพ่นยา ได้นอนต่อ ก็จะมาเช็ดตัว ก็ยังไม่ให้เช็ด ย่ากับพ่อเขามา บ่ายสอง ตื่นมาดูเหมือนกัน ก่อนลงไป เขาก็ได้เห็นการพ่นยา ที่น้องร้องไห้จ้าด้วย ย่าลงไปจ่ายค่ารักษา 20,000 กว่า อยู่จนจะ 4 ทุ่ม ตาจะเอาน้องนอนบนเตียง บังเอิญสังเกตุเห็น มือน้องบวมเป่ง เหมือนน้ำเกลือคั่งอยู่ รีบไปตามพยาบาลมาดู ระหว่างรอก็แกะผ้าเทปที่พันอยู่ น้องก็ร้องตลอด พยาบาลมาก็เลยให้เอาออก แล้วต่อว่าไป ก็เลยไม่ได้ใส่สายน้ำเกลือต่อ นี่ก็แสดงให้เห็นว่าพยาบาลไม่มีความชำนาญอีกครั้งหนึ่งแล้ว เพราะตอนที่มาเปลี่ยนผ้าเทปนั่นแหละ รัดซะแน่น จนน้ำเกลือเดินไม่สะดวก จึงบวมเป่งจนมือเกือบแตกซะอย่างนั้น นี่ถ้าไม่บังเอิญเห็น คงแย่แน่ๆ เซ็งมาก กับความไม่เป็นมืออาชีพของ รพ.นนทเวช....ตี 4 น้องปัญญ์ตัวร้อนกลับมาอีก แม่เขาเลยแจ้งหมอ คืนนี้มีอ๋อ มานอนเป็นเพื่อน ก็ช่วยกันอุ้ม หมอให้ยาฆ่าเชื้อ เจาะเข้าทางมือขวาแทนมือซ้าย ให้ยาแล้วค้างสายเอาไว้ ตามาถึง6 โมงกว่า ก็หลับกันอยู่ รอจน เกือบ 9 โมง พยาบาลจะมาให้กินยา ก็เลยเอานมให้น้องปัญณ์กินก่อน ได้หน่อยนึง จึงไปตามยาจะให้เอามาให้กิน แต่หมอมาก่อน วัดหัวใจบ้างไรบ้าง เสร็จก็บอกว่าต้องเปลี่ยนยาฆ่าเชื้อตัวใหม่ เพราะน้องตัวร้อน ตาก็เลยถามไปว่า อ้าว..ยาใช้ไม่ได้แล้วเอาให้ทำไม เขาก็พูดไปต่างๆ นาๆ แล้วบอกว่าต้องต่อสายน้ำเกลือให้ต่อ ก็ตกลง สักพักใหญ่ก็มีพยาบาลเตรียมมาต่อน้ำเกลือให้ และก็เป็นอีกครั้ง ที่เราได้เห็นความเงอะๆงะๆ ต่อสาย เสียบสาย ทำหลุด ทำหล่น แกะไม่ออก ต่อไม่เข้า ต้องไปเอาอุปกรณ์ใหม่มา สารพัดที่จะชี้ให้เห็นว่า ไม่มีความเป็นมืออาชีพ หรือสมชื่อ นนทเวชเลย....ตาก็เลยไล่ให้ไปตามคนที่เขาทำเป็นมา สักพักก็มา คนใหม่ แก้ตัวให้อย่างดีเลยว่า เขาเรียนจบจากที่โน่น ที่นี่ แล้วขอถอดสายเก่า ขอเอาตัวไปเจาะใหม่ หาที่เจาะใหม่ เพราะที่เก่ามีซึม เฮ้อ...มีอย่างนี้ด้วย ขณะที่น้องปัญญ์ก็ร้องให้อยู่ตลอด เอ้า..ตกลงเจาะใหม่ก็เจาะใหม่วะ หลวมตัวเข้ามาแล้วนี่ แม่เขาอุ้มไป รอเจาะใหม่ ให้ยาตัวใหม่ นานพอควร กลับมาห้อง ตาก็กล่อมนอนแป๊บเดียวก็หลับ คงเพลียมากๆ น่าสงสารจริงๆ ทำไมต้องมาเจออะไรที่เยอะขนาดนีี้ เราก็หวังพาลูกพาหลาน พา ญาติมา รพ.นี้ตลอด แต่คราวนี้เป็นครั้งแรก ที่มีความรู้สึกไม่ดีมากๆ กับ นนทเวช. ตามความรู้สึกก็คือ 1.ไม่มีความชำนาญ กับการดูแลรักษาผู้ป่วยเด็ก 2.เลี้ยงไข้ ให้ยาไม่ตรงจุด เด็กเจ็บคอ-ไอ กินไม่ได้ แต่เน้นอยู่ที่ดูดเสลดๆ ให้ยาฆ่าเชื้อแล้วก็เปลี่ยนตัวยา แสดงว่าขาดความรู้ในคุณสมบัติยา หรือรู้แต่ขอเลี้ยงไข้ไว้ก่อน เพราะคนไข้มีน้อย เรามาอยู่ 2 วัน ท่านเก็บไปแล้ว 20,000 กว่า 3.การไม่เข้าใจคนไข้เด็ก เพราะมักจะมีพยาบาลวนเวียน มาทำโน่นนี่ บ่อยมาก ไม่เป็นอันได้หลับได้นอน ทำไมไม่มาพร้อมๆกัน จะเหตุผลใดก็ตาม ถ้าคิดถึงคนไข้เป็นสำคัญ ก็ต้องมีวิธี....สรุปว่าถึงขณะนี้ เราไม่พอใจ การให้บริการ ของ โรงพยาบาล นนทเวช เสียแล้ว อยากย้าย และไม่อยากฝากกายฝากไข้ ไว้กับที่นี่อีก หากผู้บริหารทราบ ก็ควรหาวิธีปรับปรุง เสีย ถึงแม้คุณจะคิดว่า การกระทำต่างๆของคุณที่เกิดขึ้นมันถูกต้องแล้วก็ตาม สิ่งที่คุณควรทำก็คือ อย่าให้คนไข้คนอื่น มีความรู้สึกเช่นเดียวกับเราอีก.....ขอบคุณ

คุยแบบเห็นหน้า ทุกสถานที่

บทเพลง โดนใจ ในบางเวลา

บทเพลง...ตากน้ำตา ศิลปิน พจน์ สุวรรณพันธ์
พรุ่งนี้ ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นทางเก่า แต่ชีวิตเหงาๆของฉันไม่รู้จะเดินไปทิศทางใด เมื่อไม่มีเธอแล้ว คนที่รักปานดวงใจ ทุกอย่างที่เคยวาดไว้ ก็พังภายในพริบตา หมดปัญญาจะเหนี่ยวรั้ง หมดพลังจะเดินต่อไป เพิ่งรู้ว่าฉันอ่อนแอแค่ไหน เมื่อมีน้ำใสๆมันไหลผ่านตา จะอยู่เผชิญความเหงา ต่อไปได้สักกี่น้ำ แล้วแต่เวรหรือกรรมจะนำพา เพราะฝากทั้งชีวิตไปผูกติดกับเธอเกินกว่า จะถอนหัวใจกลับมา เป็นฉันคนเดิมอีกครั้ง พรุ่งนี้ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นทางเก่า ถ้าชีวิตเหงาๆของฉันตื่นมายังคงมีลมหายใจ ก็จะกัดฟันฝืน เริ่มต้นกับเช้าวันใหม่ ให้แสงแดดส่องหัวใจ ที่เปียกชุ่มด้วยน้ำตา ให้แสงอาทิตย์ส่องใจ ฉันจะตากน้ำตา..

ผู้ปิดทองหลังพระ - คาราบาว

อีกหนึ่งความตั้งใจ ของผม อยากให้ทุกๆ คน รักชาติ รักศาสนา รักพระมหากษัตริย์ ครับ ช่วยกันส่งเสริมด้วยนะครับ....

วัดบางแพรก สร้างสิงห์แกะรุ่นแรก

อยากให้คุณได้ชม การจัดสร้าง และ การปลุกเสก เครื่องรางมงคล ของวัดบางแพรก บางบัวทอง นนทบุรีกันครับ ผมว่า มันยอดเยี่ยมจริงๆเลย....

สอนทำแกงส้มสูตรปักษ์ใต้ หร้อยๆ

23 มีนาคม 55 : วันนี้นึกอยากกินแกงส้มปลาแห้ง สูตรของคุณแม่ไว แก้วเนียม ขึ้นมา เปิดหาของในตู้เย็นดู ก็พบว่า มีพร้อม ก็เลยลงมือทำเลย ไม่รอช้า ถ้าใครอยากกินแกงส้มปักษ์ใต้ สูตรแม่ผม เชิญติดตาม และ ทำตาม ได้เลยครับ ขั้นตอนแรก เตรียมของให้พร้อมทุกอย่างก่อน ดังนี้...เนื้อปลาแห้ง (ปลาอะไรก็ได้ที่คุณชอบ แช่น้ำพอคลายเค็ม เนื้อปลาพอนุ่ม เตรียมไว้(รูปใหญ่)....เครื่องปรุงประกอบการแกงมี เครื่องแกงส้ม สัก ขีดสองขีด แล้วแต่ชอบ ชอบเผ็ดมาก ก็ใส่เยอะหน่อย...มะขามเปียก พอประมาณ หากชอบเปรี้ยวๆ ก็เพิ่มลงไป...ต่อไปอันนี้สำคัญ คือ กะปิปลา(เคยปลา) เป็นกะปิที่ได้จากปลาทะเล หายากหน่อย แต่คนปักษ์ใต้ส่วนใหญ่รู้จัก แถวอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช หากินได้ไม่ยาก เอาสัก 3 ขีดก็แล้วกัน(รูปเล็กบน)....ต่อไปเป็นผัก ผมใช้มะละกอดิบ 1 ลูก หั่นเป็นชิ้นพอคำ ใครจะหั่นออกแบบสวยๆแบบไหนก็ได้ไม่ว่ากัน....เอาล่ะครบแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ....

....เอาน้ำสะอาด(น้ำเปล่า) ใส่หม้อสำหรับปรุง กะพอประมาณให้พอดี กับสิ่งของที่เราเตรียมไว้ ตั้งไปให้น้ำเดือด ใส่เครื่องปรุงทั้งหมดลงไป( เครื่องแกง-มะขามเปียก-กะปิปลา) เอาทัฟพีคนให้ทั่ว พอทุกอย่างละลายแล้ว จึงค่อยๆตักเอากากเอาเศษๆพวกก้างปลาใยมะขาม ตักออกให้หมด(รูปใหญ่)....จากนั้นจึงใส่ปลาแห้ง และ ผักลงไป คนให้ทั่ว ปิดฝาหม้อไว้เปิดไฟให้เดือดสักพัก ทิ้งให้อุ่นก่อนแล้วค่อยรับประทาน กับข้าวสวยร้อนๆ หือ อร่อยจริงๆ ลองทำดูนะ ครั้งแรกอาจไม่เท่าไหร่ แต่ครั้งต่อไป หร้อยๆๆ......แน่นอนครับ

ไปธนาคาร แบบสบายๆ

การไปธนาคาร บางคนบอกว่าง่ายๆ สบายๆ แต่บางคนบอกว่าช่างเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมากๆ ไม่อยากไปธนาคารเล้ย! เอาเถอะต่างจิตต่างใจ ต่างประสบการณ์ ไม่ว่ากัน แต่ถ้าหากวันนี้เรามีบัญชีของ ธ.กสิกรไทย สบายใจได้จริง ไม่ว่า จะฝาก จะถอน กสิกร เขาทำให้ แบบรวดเร็ว ประทับใจ ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป....สิ่งที่คุณต้องทำ เมื่อต้องไปธนาคาร อันดับแรกเปิดประตูเข้าไป(แหม่ ไม่ต้องบอกก็ได้นะ) จะมีพนักงานสาวสวยเดินมาต้อนรับ สวัสดีค่า เชิญค่า ทำรายการอะไรคะ ประมาณนี้ เราก็บอกเขา เขาก็จะแนะนำเราบอกเราถึงวิธีการต่างๆ ทุกขั้นตอน ถ้าจะถอนเงิน ก็เขียนใบถอน กดบัตรคิว แล้วนั่งรอเรียกตามหมายเลขที่ได้ ไม่ต้องกังวล ธ.กสิกรไทย เขามีพนักงานเยอะ ทำงานเร็ว ลูกค้าแต่ละคนจะได้รับบริการที่รวดเร็ว ทีนี้ในส่วนที่ว่า จะรอนานหรือเร็ว แค่ไหน กว่าจะได้ทำรายการของเรา หรือถึงคิวของเรา อันนี้ ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่เข้าคิวอยู่ก่อนเรา จะมากน้อยแค่ไหน ก็รอไป ใจเย็นๆ พอถึงคิวเขาเรียก ก็ไปทำรายการที่เคาท์เตอร์ ทีนี้ จะฝากเงิน โอนเงิน ถอนเงิน ใช้เวลาแป๊บเดียว เสร็จเรียบร้อย ข้อดีของการทำธุรกรรมการเงินที่สำนักงานสาขาของธนาคารแบบนี้ ปลอดภัยดี มีหลักฐานชัดเจน หมดห่วง เราสบายใจหมดกังวล เพราะว่ามีบางคน ทำธุรกรรมแบบออนไลน์บ้าง ทำที่ตู้ATM บ้าง บางทีก็เกิดปัญหา เมื่อมีปัญหา ก็จะแสนยุ่งยาก และเสียเวลามาก ก็มีไม่น้อย แต่จะอย่างไรก็ตาม เมื่อเราจะทำธุรกรรมใดๆ ที่เกี่ยวกับการเงินทุกครั้ง เรา ควรเก็บหลักฐานเอาไว้ให้ดีที่สุดนะครับ...ปลอดภัยที่สุด ไม่ประมาท เป็นยอดคน!!

ตลาดนัดวันศุกร์ใหญ่มาก!!

23 มีนาคม 55 : วันนี้เป็นวันศุกร์ ที่ในกระทรวงสาธารณสุข มีตลาดนัดที่ใหญ่มาก ประชาชนมาเดินดูและจับจ่ายกันเยอะมาก สินค้าที่นำมาขายกัน ก็มีหลากหลายตระการตา ซื้อหากันได้อย่างชุ่มฉ่ำใจ!            ทุกเช้าวันศุกร์ หลังจากเลิกออกกำลังกายแล้ว ก็มักจะแวะไปเดินดูโน่นนี่ อยู่เป็นประจำ วันนี้ก็เช่นกัน ของที่ได้อย่างแรกเลยก็คือ ผักกาดดองกรอบ ถุงละ 30 บาท ถือไว้ เจอนำ้แครอทปั่น 20 บาท อันนี้ดื่มเลย เดินต่อได้ผักตำลึง 2 กำ 20 บาท ผักจิ้ม แตงกวา มะเขือ ถุงละ 5 บาท เนื้อปูแกะ 120 บาท ดอกเห็ดหอม 100 สาหร่ายดำแห้ง 3ห่อ 50 และกาแฟซูเหลียนห่อใหญ่ 84 ซอง 650 บาท อันนี้ถูกพิเศษเลย ได้ของหอบใหญ่จึงกลับบ้าน ศุกร์หน้าจะไปหาใหม่นะครับ

วัดบางแพรก นนทบุรี ฉ.169

สิงห์แกะ สุดยอดเครื่องราง กลับร้ายกลายเป็นดี ของวัดบางแพรก นนทบุรี

ศักดิ์สิทธิ์ เข้มขลัง เต็มกำลัง

ด้วยพลังแห่งการปลุกเสก ของ พระเกจิคณาจารย์ กว่าครึ่งพัน!!

รายงานข่าวโดย...ตามพุทธ ใต้ตะวัน

                ที่วัดบางแพรก นนทบุรี เมื่อวันศุกร์ที่ 24 และ วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นสองวันแห่งประวัติศาสตร์ สำคัญ ของวัดบางแพรก ในยุค ของ พระอาจารย์ตุ๊กเล็ก ท่านเจ้าอาวาส เพราะเป็นสองวัน แห่งความทรงจำ สองวัน แห่งบุญบารมี ของวัดแห่งนี้!

          วันแรก มีพระเกจิอาจารย์ เมตตาเดินทางมาจากหลายจังหวัด ทั้งใกล้และไกล พร้อมใจการอธิษฐานจิต ปลุกเสก อย่างเต็มกำลัง ซึ่งพระเกจิอาจารย์แต่ละท่าน ได้เห็นการจัดสร้าง และรูปแบบของสิงห์แกะ รุ่นนี้แล้ว ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า งดงาม และ เข้มขลัง ที่สุด เท่าที่เคยเห็นมาจริงๆ และ เมื่อได้สัมผัส กับยอดวัตถุมงคล ตัวแล้ว ตัวเล่า ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ถึงกับอุทานว่า แรง มัน แรงมาก จริงๆ!!

          วันต่อมา พระเถราจารย์จากวัดต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัดนนทบุรี และ ใกล้เคียง ก็พร้อมใจกันเดินทางมาที่วัดบางแพรก เพื่อร่วมกัน เจริญพระพุทธมนต์ อันศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวพุทธทุกหมู่เหล่า ให้ความเชื่อถือว่า ถ้าหากเจริญพุทธมนต์บทนี้ จะได้รับบุญบารมี สูงเทียมฟ้า เหนือกว่า พระคาถาอื่นใด นั่นก็คือ พระธัมมจักกัปปวัตนสูตร นั่นเอง พระสงฆ์พระเถราจารย์กว่า ครึ่งพัน!! ร่วมแรง ร่วมใจกัน เจริญพระคาถาดังกล่าวอย่างยาวนาน ภายหลังการบวงสรวงเทพยดาเจ้า  และ หลังจากนั้น จึงได้รับเมตตา จาก พระเกจิจอมอาคมแดนอีสาน จากจังหวัดร้อยเอ็ด หลวงพ่อสังเวียน แห่งวัดอุดรนรเขต มานั่งปรกอธิษฐานจิต ปลุกเสกต่ออีกยาวนาน จนพลบค่ำ จึงแล้วเสร็จ จนศักดิ์สิทธิ์ ครบถ้วน สมบูรณ์ ทุกประการ!

          สิงห์ 1 รุ่น 555 ของวัดบางแพรก เป็นสิงห์แกะ ที่ได้จาก งาช้าง จำนวนหนึ่ง  ได้จาก ไม้พยุง จำนวนหนึ่ง ได้จาก แก่นมะขาม อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งแต่ละอย่าง ล้วนแล้วแต่มีไม่มากนัก พอปลุกเสกเสร็จ ประชาชนและนักนิยมพระเครื่องวัตถุมงคล ก็รีบจับจองบูชากันทันที เพราะพวกเขาทราบดีกันอยู่แล้วว่า เครื่องรางของขลังต่างๆ ที่ได้รับการปลุกเสก และจารอักขระ จากหลวงพ่อสังเวียน วัดอุดรนรเขต นั้น เปี่ยมด้วย พลานุภาพ เพียงใด!

          สิ่งหนึ่ง ที่สะดุดตา ผู้เขียน เป็นอย่างยิ่ง คือ การนำแป้งเสก มาจุลเจิม ลงไปในวัตถุมงคล ของหลวงพ่อสังเวียนนั้น ท่านจะใช้ นิ้วกลาง จุ่มแป้ง และ จุลเจิม!  จากจุดสังเกตตรงนี้ นี่แหละ ที่ทำให้ผู้เขียน พยายามสอบถาม ถึงความศักดิ์สิทธิ์ ของ สิงห์แกะ รุ่นนี้ มากขึ้น กว่าความตั้งใจเดิมๆ อีกหลายเท่า พอเสร็จพิธี ผู้เขียนก็ไม่รอช้า รีบหาจังหวะ เข้าไปสอบถามเอาความจริง จากท่านจนได้ คุณผู้อ่านเชื่อมั๊ย เพียงได้เจรจากันไม่กี่ประโยค ผู้เขียน ซึ่งคร่ำหวอด อยู่กับวงการนี้มานาน ก็ทำให้รู้ได้ทันทีเลยว่า นี่แหละ ของดี ที่ไม่ธรรมดาที่สุด!  หลวงพ่อสังเวียน ได้ให้ความรู้ และ ความเข้าใจ ในการเขียนอักขระ ในการเรียกสูตรเรียกนาม ในการอธิษฐานจิต ในการปลุกเสก ว่าถ้าจะให้ของที่สร้างและเสก มีอานุภาพสูงสุดจริงๆ  เราต้องนิ่งให้สุดๆ ขณะเสก จะต้องไม่มีสิ่งอื่นใด มากระทบให้จิตใจกวัดแกว่งได้ จะลงอักขระสักตัว ต้องลากเส้นดึงสาย กันยาวนาน ไม่ใช่จะมาเขียนกันง่ายๆ เพราะอานุภาพที่จะได้นั้น มันอยู่ตรงนี้!

          คุณผู้อ่านครับ ของทั้งหลาย อานุภาพ จะมากมายแค่ไหน ใครจะไปรู้ ใครจะไปมั่นใจ สิ่งเหล่านี้ หากยังไม่เกิดเหตุ เภทภัย ก็ยังไม่เข้าใจ ถึงอานุภาพของมัน แต่ ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า เมืองนนทบุรีนั้น เป็นเมืองแห่งพระเครื่อง เมืองสำคัญอันดับหนึ่ง นักเลงก็มาก เซียนพระก็เยอะ นักพิสูจน์ชอบลองของก็มีแยะ เพราะฉะนั้น พระเครื่อง วัตถุมงคล ที่ออกจากจังหวัดนนทบุรี และ ไปมีชื่อเสียงโด่งดังทั้งหมด จึงมักจะไม่พ้น มือลองของ คนที่นี่เป็นแน่แท้  และ ก็เช่นกัน สิงห์แกะ ทุกเนื้อ รวมทั้งลูกอมพญาสิงห์ เสื้อยันต์ ผ้ายันต์ ที่ปลุกเสกในคราวนี้นั้น จึงไม่สามารถหลุดรอดจากการทดสอบไปได้ ภายในวันรุ่งขึ้นนั่นเอง! ซึ่ง ผลที่ได้ก็คือ ผ่าน ชัวร์ พกพาได้ ไม่หนักคอเปล่าๆ เอาอยู่  ได้จริงแท้ แน่นอน สมราคาคุยครับ!

          คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ มากน้อยแค่ไหน อย่างไรไม่ว่ากันครับ ผู้เขียนบอกได้คำเดียวว่า ของศักดิ์สิทธิ์ ชื่อ สิงห์ 1 รุ่น 555 มีอนาคตแน่นอน และ จะช่วยแก้อาถรรพณ์อัปมงคล ให้กับผู้ที่พกพาได้ พร้อมทั้งยังจะช่วยให้พ้นภัย ในปี 2012 นี้ได้อย่างฉลุย เพราะ เราเชื่อ ในพุทธคุณ ทั้งหมด ทั้งมวล นั่นเอง.......

ติดต่อขอเช่าบูชา ได้ที่ วัดบางแพรก นนทบุรี โทรศัพท์  02-595-1722 และ 083-491-3262

               

เรื่อง หลวงพ่อสุวรรณ (ฉ.169)

พระครูปกาสิตธรรมคุณ(หลวงพ่อสุวรรณ ถิรสทฺโธ)

วัดยาง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง

...ว่าด้วย วิชา นะหน้าทอง ขุนแผนชมตลาด อันลือลั่น!!

เรื่องโดย อ.เทียนน้ำมนต์ ภาพโดย ปุณยวีร์ แสนสุข

                คุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ท่านทั้งหลาย คงเคยได้ทราบถึงกิตติคุณ อันโด่งดัง ของหลวงพ่อสุวรรณ แห่งวัดยาง จังหวัดอ่างทอง กันมาแล้ว และ ท่านทั้งหลาย คงเคยได้รับความเมตตา ได้ลง นะหน้าทอง ขุนแผนชมตลาด กับหลวงพ่อสุวรรณ กันมาแล้ว เพราะเป็นหนึ่งในตำรับวิชาอันโด่งดัง ลือลั่น ของท่าน  ที่เมื่อท่านลงให้กับใครไปแล้ว สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ เมตตา มหานิยม คนเห็นคนชม เทวดารัก จะเดินทางไปแห่งหน ตำบลใด มีแต่คนเมตตารักใคร่เอ็นดู มากมาย อย่างไม่น่าเชื่อ!

          หากท่าน เคยได้รับการ ลงนะหน้าทอง ท่านจะได้ยินหลวงพ่อสุวรรณ ท่านสวดพระคาถาศักดิ์สิทธิ์อยู่ตลอดเวลา ไม่ขาดปาก ในขณะที่กำลังลงทอง และเจิมจาร ลงในลิ้น และ ที่หน้าผากของเรา ใช่มั๊ยครับ? นั่นแหละ ความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลายทั้งมวล ได้ก่อเกิดขึ้น ณ ขณะนั้น เวลานั้น เราท่าน ก็จะสัมผัสได้ ในทุกเวลานาที จนกระทั่งท่านลงให้เสร็จสิ้นเรียบร้อย เราก็จะรู้สึกได้ว่า หน้าของเรา ใจของเรา เปลี่ยนไป อิ่มอก อิ่มใจ อย่างไรไม่รู้ อธิบายไม่ถูก แต่สุขใจ เหลือประมาณ!

          วันนี้ วิชา นะหน้าทอง ขุนแผนชมตลาด และ พระคาถาต่างๆ จะได้ถูกถ่ายทอด ให้คุณผู้อ่านผู้โชคดี ได้รับรู้รับทราบกันอย่างครบถ้วน และ สามารถ นำไปใช้ นำไปสวด ไปเสริม เพื่อเพิ่ม บารมีเมตตา ให้กับตัวของท่านเองได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ท่านเพียงแต่ บูชาครูอาจารย์ แล้วท่านก็จงศึกษา รับเอาตำราวิชานี้ ไว้ใช้เถิด หากเกิดผลดีประการใดแล้ว ก็หมั่นไปกราบไหว้ เคารพครูบาอาจารย์ คือ หลวงพ่อสุวรรณ แห่งวัดยาง จังหวัดอ่างทอง กันบ่อยๆ ก็แล้วกัน

                เริ่มด้วย ตั้งนะโม เสียก่อน 3 จบ แล้วบูชาครูบาอาจารย์ ด้วยดอกไม้ธูปเทียน ระลึกถึงท่าน แล้วเริ่มด้วย การตั้งองค์พระ ว่า...ศรีษะ พุทธา ปะนะวิชายะเต   ขอจงมาบังเกิด เป็นศรีษะ      อังคะ พุทธา ปะนะวิชายะเต  ขอจงมาบังเกิด เป็นองค์พระ       บาทะ พุทธา ปะนะวิชายะเต  ขอจงมาบังเกิด เป็นฝ่าพระบาท และ ดอกบัว    แล้วว่าต่อด้วย พระคาถาต่อไปนี้....นะ กะโรโหติ  สัมภะโว จงมาบังเกิด เป็น นะเมตตา มหานิยม นะ โอม สิทธิ ฟ้าฟื้นเจริญศรี  ตัวกูนี้คือฟ้า  หน้ากูคือ พระจันทร์ ฟันกูคือ พระกำแพง  แสงกู คือพระอาทิตย์ จิตกู คือ พระนารายณ์ ฉายดู สาวใดในมนุษย์ และ สวรรค์ เห็นหลงใหล รักใคร่ทุกคน นะมะ พะทะ  นะโม พุทธายะ  กะริ กะริยะ  สีวะ จะ มหาเถโร  นะระปุสิโต  โสระโห  ปัจจายะ  ถิขะมะอิ  อะหัง วันทามิ  สีวะลี  เถระคุนัง  โสตถีระนัง ภะวันตุเม ฯ      พุทธัง เมตตา นะ ชาลีติ  ธัมมัง เมตตา นะ ชาลีติ  สังฆัง เมตตา นะ ชาลีติ ฯ

                จบวิชา นะหน้าทอง เพียงเท่านี้ ขณะว่าพระคาถาต่างๆ ก็ให้นำแผ่นทองคำเปลวแท้ๆ ปิดลงที่ลิ้น และ ที่หน้าผาก ขณะภาวนาพระคาถา ก็ให้ใช้นิ้วกลาง คลึงแผ่นทอง ให้ซึมหายเข้าไปในใบหน้า เสร็จแล้วตั้งจิตอธิษฐานขอเอา ตามประสงค์ ผู้ที่เชื่อมั่น หมั่นปฏิบัติ และภาวนา ไม่ช้าไม่นาน ก็จักสำเร็จ สมหวัง ดังที่ปรารถนา ตามพลังบุญอันสมควรแห่งตน...

                ท่านผู้อ่านที่รักทั้งหลาย นี่ไม่ใช่วิชา นะหน้าทอง ธรรมดาๆ แต่เป็นวิชา ที่ได้รับการสืบทอดมาอย่างยาวนาน หลวงพ่อสุวรรณ ท่านเคยบอกกับผู้เขียน ว่าให้เรียนเอาไว้ จะได้ช่วยกันสืบสานกันต่อไป  หากคุณผู้อ่านท่านใด นำวิชาไปใช้ หรือ ได้ศึกษาเล่าเรียนจากบทความนี้แล้ว วันใดโอกาสดี มีเวลา ก็ขอแนะนำให้ท่าน ไปฝากตัวกับหลวงพ่อท่าน และ ถึงวันไหว้ครูเมื่อไหร่ ก็ไปไหว้ครู ครอบครู บูชา ครูบาอาจารย์เสียด้วย ท่านก็จะได้รับพลานุภาพ แห่งพระคาถา อย่างครบถ้วนกระบวนความครับ  ส่วนท่านใด ประสงค์จะเดินทางไปกราบ ไปพบ หรือไปขอทำบุญสร้างพระใหญ่ และ บูชาวัตถุมงคล กับหลวงพ่อสุวรรณ ก็ขอให้ท่านโทรศัพท์สอบถามก่อนเดินทางไปนะครับ ที่เบอร์ 035-870-061 และ 081-435-8709 ครับ โชคดีทุกท่านนะครับ.....            

หลวงพ่อแป๊ะ-รวย ไหว้ครูปี 2555

วัดสว่างอารมณ์(แคแถว) หลวงพ่อแป๊ะ-รวย โด่งดังดีเด่น ในเรื่องของการจัดงาน พิธีกรรมพิธีการต่างๆ  ซึ่งไม่ว่าจะจัดพิธีใดๆ ขึ้นก็ตามมักจะมีประชาชนและศิษยาสานุศิษย์ทั่วไปให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ต้นปีมานี้เริ่มจากงานวันเกิดของหลวงพ่อแป๊ะ เดือนมกราคม นี่ก็ยิ่งใหญ่ น่าดูชม มีการปลุกเสกตะขอช้าง จนลือลั่น สนั่นเมือง  ต่อมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ท่านก็จัดพิธีสวดภาณยักษ์ใหญ่ประจำปี ประชาชนก็แห่แหนกันมาเข้าพิธีสวดภาณยักษ์นับเป็นเรือนหมื่น จนสถานที่ที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ไม่เพียงพอต่อสาธุชนที่มาเข้าพิธี บางคนต้องนั่งตากแดดเปรี้ยงๆ ก็ยอม  ขอให้ได้เข้าพิธีก็พอ เพราะถ้าพลาดแล้วก็พลาดเลย ต้องรอกันจนถึงปีหน้าเลยทีเดียวเพราะหลวงพ่อแป๊ะท่านไม่ได้ทำพร่ำเพรื่อ 1 ปีจะมีสักครั้งกับงานใหญ่ๆ อย่างนี้ และในเดือนมีนาคมนี้ ก็จะมีงานใหญ่อีกครั้งแล้ว   หลวงพ่อแป๊ะ-รวย ท่านจะจัดให้มีงานพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ ครอบครูบูชาครู ประจำปี โดยกำหนดให้มีงานวันเสาร์ที่ 24-วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคมนี้โดยจะเริ่มพิธีตั้งแต่ช่วงเย็นของวันเสาร์ที่ 24  เป็นต้นไปตลอดทั้งคืน และเริ่มพิธีเช้าวันอาทิตย์ 06.39 นาทีเป็นต้นไป บอกเลยว่าห้ามพลาดอีกเหมือนกัน เพราะการไหว้ครูนั้นถือเป็นการน้อมรำลึกถึงพระคุณของคุณครูบาอาจารย์ อย่างน้อยปีหนึ่งไหว้ใหญ่สักครั้งหนึ่ง เหมือนกับเป็นการกตัญญูรู้คุณท่าน นำผลหมากรากไม้มาถวายท่านโดยให้หลวงพ่อแป๊ะ-รวย เป็นผู้กล่าวถึง ท่านจะได้พาเราทำในทางที่ถูกวิธี ที่ต้องที่ควร บุคคลใดมีครูก็เท่ากับมีของดีประจำตัว ไปไหนก็ไม่ต้องกลัวภัยอันตรายเพราะท่านจะคอยปกปักษ์คุ้มครองเราตลอดนั่นเอง

 เรื่องของการเป็นเจ้าพิธีนี่ ก็ต้องยกให้หลวงพ่อแป๊ะ-รวยท่าน ให้เป็นเบอร์หนึ่งไปเลย เพราะท่านได้ร่ำเรียนเกี่ยวกับพิธีกรรมโบราณเพื่อช่วยเหลือญาติโยมมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพิธีสวดภาณยักษ์ พิธีสืบชะตะหลวงแบบล้านนา พิธีเป่ายันต์เกาะเพชร ถึงแม้วัดสว่างอารมณ์(แคแถว) จะมีงานพิธีกรรมจัดขึ้นถี่เหมือนงานประจำเดือน แต่เราก็วัดผลกันได้ที่จำนวนประชาชนที่เดินทางมาเข้าพิธี ถ้าไม่ดีจริง ไม่ขลังจริง ไม่ศักดิ์สิทธิ์จริง คงไม่มีคนเดินทางมาทำพิธีจนล้นทะลักออกมานอกศาลาและบริเวณปะรำพิธีหรอกจริงมั๊ย? เมื่อเรามีโอกาสดีๆ แบบนี้ มีครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้เรา เราก็ต้องรีบไขว้คว้าเอาไว้  เราต้องรีบกอบโกยเอาสิ่งที่ดีๆ เข้าตัว  เสียตั้งแต่ครูบาอาจารย์ ท่านยังมีชีวิตอยู่ ตักตวงกันให้คุ้มสุดคุ้ม!

                ส่งท้ายกันวันนี้ คณะศิษยาสานุศิษย์ของหลวงพ่อแป๊ะ-รวยท่านใดที่ยังไม่ได้บูชาวัตถุมงคลตะขอช้างกับตะกรุดเชือกปะกำคล้องช้าง ที่หลวงพ่อแป๊ะ-รวย ท่านได้จัดสร้างและปลุกเสกขึ้นมาเป็นจำนวนหนึ่งนั้น บัดนี้ยังเหลืออีกไม่มากนักก็รีบกันหน่อยก็แล้วกัน ผู้เขียนเองขอยืนยันว่าวัตถุมงคลชุดนี้ได้ผ่านพิธีปลุกเสกอย่างดียิ่ง และเข้มขลังจริงๆ  เพราะตัวผู้เขียนเองก็ได้ติดตามไปจนถึงจังหวัดสุรินทร์โน้น ไปดู ไปรับรู้มาด้วยตัวเอง เพื่อจะได้เป็นสักขีพยาน แห่งความมั่นใจให้กับทุกท่านได้  และต่อด้วยการ ปลุกเสกอีกหลายวาระ เต็มกำลังครบตำราที่สุด  ก็ขอให้รีบกันหน่อยนะ

หลวงพ่อขาว (อิทธิฤทธิ์ 169 )

“พระเกจิจอมอาคม ผู้บ่มเพาะ แนวทาง วิปัสสนา

เชื่อมั่นพุทธคุณ ทั้งโลกนี้  และ โลกหน้า”

พระครูปลัดจำเริญ ญาณสัมปันโน (หลวงพ่อขาว รักการ)

วัดพรหมกิตติยาราม ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 08-6893-4999

พระพุทธศาสนาของเรานั้น ช่างสุดแสนมหัศจรรย์ยิ่งนัก แนวทางของศาสนา เป็นสิ่งที่สามารถ นำพาประชาชน ทุกหมู่เหล่า ทุกชั้น ทุกวรรณะ ทุกระดับ ให้เข้ามาสู่ มารับรู้ สัมผัส แห่งความเป็นพุทธะ ได้เสมอ โดยไม่ต้องคำนึงว่า เขาเหล่านั้นจะเป็นใคร จะเป็นคนยากจนต่ำต้อย ด้อยการศึกษา จะเป็นคนสูงศักดิ์ รวยเทียมฟ้า วาสนาเลิศล้ำก็ตาม  ทุกคน สามารถเข้าถึงพระศาสนาได้ทั้งหมด สามารถรับรู้รสของพระธรรมได้ทุกคน พระพุทธองค์ทรงพระปรีชาชาญ อย่างล้ำลึกจริงๆ

                ด้วยเพราะว่า ระดับความศรัทธาของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน ระดับการรับรู้พระธรรมก็ย่อมมีแตกต่างกัน เปรียบดั่งเช่น เด็กเล็กๆ กับเด็กวัยรุ่น และ ผู้ใหญ่ คนทั้ง 3 วัยนี้ย่อมแตกต่างกัน ทั้งด้วยวัย ด้วยความรู้ ความเข้าใจ และ ความรู้สึก เด็กเล็กๆ ก็อาจจะเล่นของเล่น และซนไปตามวัย เด็กวัยรุ่น ก็จะไปอีกอย่าง ไปทางเพื่อน ทางเที่ยว  ผู้ใหญ่ก็จะเข้าใจชีวิต มากขึ้นเป็นอีกแบบ ครั้นเมื่อเรา ได้พิจารณามองดู เราเห็นเด็กเล็กๆ เล่นซน หรือเล่นของเล่น เราจะไปกล่าวว่า เด็กคนนี้ ไร้สาระ เอาแต่เล่นไปวันๆ  ก็ไม่ถูก เราเห็นเด็กวัยรุ่น ร่าเริงไปตามวัย เราจะไปกล่าวว่า หาว่าไม่เอาไหน อย่างนี้ ก็ไม่ควร เพราะแต่ละสภาวะของแต่ละคน มันมีความต่างกันอยู่นั่นเอง เปรียบกับเรื่องราวแห่งชีวิต ของผู้คน ที่มีความเคารพนับถือ ในคุณพระคุณเจ้า ทั้งหลายก็เช่นกัน เราจะไปกล่าวหาว่า พระรูปนี้ รูปนั้น สอนคนไปทางที่ไม่ตรง ไปทำให้ลุ่มหลงในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปเชื่อในเรื่องที่เป็นกระพี้ ไม่มีแก่น อย่างนี้ก็ไม่ควรเช่นกัน เพราะการชักนำ ประชาชน เข้าสู่พระศาสนานั้น ย่อมทำได้หลายวิธีด้วยกัน เมื่อเขาเข้ามาแล้ว ก็พยายามชักจูง สั่งสอน ให้เขาเป็นคนดี มีศีล มีธรรม แล้วนำเข้าสู่หนทาง แห่งความหลุดพ้น เป็นลำดับต่อไป อย่างนี้สิ ถึงจะดีที่สุด!

          หลวงพ่อขาว ญาณสัมปันโน รูปนี้แหละ ที่ได้รับคำชื่นชม จากพระเถราจารย์ ชั้นผู้ใหญ่ เป็นนักหนา ว่า ท่านคือพระเกจิอาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งด้านวิปัสสนา และ คาถาอาคม!

          หลวงพ่อขาว สามารถชักชวนลูกศิษย์ลูกหา ผู้ชื่นชอบในวิชาอาคม ดึงมาเพาะบ่ม ด้านวิปัสสนา จนได้ความรู้แตกฉานไปแล้วหลายคน บางคนชื่นชอบ จนไปเปิดสำนักปฏิบัติธรรม เป็นเรื่องเป็นราว ไปแล้วก็มี และท่านก็ดำเนินการตามแบบอย่างนี้ มานานแสนนาน

                ประโยคหนึ่ง ที่ลูกศิษย์ทุกคน จะได้ยินอยู่เสมอ จากคำสอนของท่านก็คือ “ไสยศาสตร์ จะช่วยท่านได้ เมื่อท่านมีศรัทธา แต่ว่าไสยศาสตร์นั้น จะช่วยท่านได้ เพียงแต่ในปัจจุบันชาติเท่านั้น แต่ในอนาคตชาติ มันต้อง วิปัสสนากรรมฐานเท่านั้น ที่จะเป็นบุญ ตามไปช่วยท่านได้” ความหมายง่ายๆ ก็คือ วิชาอาคมนั้น ใช้ได้แต่ในโลกนี้เท่านั้น ส่วนในโลกหน้า เราต้องอาศัยบุญ จากดวงจิต ที่ได้จากการฝึก และ ปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน!

                ด้วยประการฉะนี้ เราจึงเห็นได้ว่า หลวงพ่อขาว ท่านจะพยายาม นำเอาพระเณร และ ญาติโยม เข้าสู่การฝึกฝนทำสมาธิ และวิปัสสนา อยู่เสมอ มิได้ขาด แม้จะนิดๆน้อยๆ จากการปลุกเป่า เมื่อสักยันต์ให้แล้วเสร็จ หรือ เล็กๆน้อยๆ จากการทำพิธีขอพรพระจันทร์ของท่าน และ ฝึกฝนอย่างดี เต็มที่ จากการนำกุลบุตรกุลธิดา เข้ามาบวชมาบรรพชา เป็นพระ เป็นสามเณร ชีพราหมณ์ ท่านก็ทำมาโดยตลอด นี่แหละ พระแท้ ที่ควรชื่นชม!

          ทุกวันนี้ หลวงพ่อขาวเอง ท่านก็ยังคงคร่ำเคร่ง อยู่กับการท่องบ่น มนต์คาถา ลงเลข เสกสักอักขระยันต์ อยู่เหมือนเดิม แต่ที่ท่านจะเพิ่มให้เต็มกำลังก็คือ ตั้งแต่นี้ต่อไป ท่านจะเปิดฝึกอบรม บ่มเพาะ งานด้านวิปัสสนา ให้กล้าแกร่ง เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น โดยท่านจะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนปีนี้ ด้วยการเชิญชวนทุกคน ไปบวช เพื่อฝึกอบรม วิปัสสนา ท่านจะบวชให้ ทั้งบวชชีศีลจาริณี บวชชีพราหมณ์ บวชพระ บวชเณร ครบถ้วน เริ่มต้นอย่างจริงจังตั้งแต่ พ.ศ.นี้เป็นต้นไป เพราะฉะนั้นท่านใด ประสงค์จะร่วมบุญใหญ่ ในครั้งนี้ รีบติดต่อไปที่ หลวงพ่อขาว ท่านโดยไว!

          นี่แหละครับ หลวงพ่อขาว ญาณสัมปันโน พระเกจิจอมอาคม ผู้เพาะบ่ม วิปัสสนา ดังที่กล่าวมา แล้วคอยพบกับเรื่องราวดีๆ ของท่าน ในตอนต่อไปนะครับ..........

ดึงไฟล์วีดีโอจากDVD

21 มีนา 55 : เมื่อวันก่อนได้รับแผ่น DVD มา3แผ่น เป็นภาพบรรยากาศของงานวัดแห่งหนึ่ง เพื่อจะนำมาตัดต่อใหม่ และนำออกอากาศ แต่ไม่รู้ว่าจะดึงไฟล์งาน ออกมาใช้ได้อย่างไร บางโปรแกรมที่มีอยู่ก็พอช่วยได้ แต่งานที่ได้มีสะดุดบ้าง ติดบ้าง ทำให้เสียเวลาอยู่ครึ่งวัน จนได้มาเจอ โปรแกรม winX DVD Ripper ตัวนี้เข้า หลังจากลองลงตัวอื่นมาแล้วหลายตัว ที่บอกว่าฟรี แต่สุดท้ายถ้างานยาวมากก็จะให้ซื้อละ ทีแรกก็กะว่าจะลองดูแค่นั้น แต่ปรากฏว่า เวิร์คสุด ทำงานได้ดี แถมฟรี อีกต่างหาก ใช้ก็ง่าย สบายที่สุด ทำให้สามารถคัดลอกงานออกมาใช้ได้ทั้ง 3 แผ่น ในเวลาอันรวดเร็ว ขอยกย่อง และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ หากคุณอยากได้ ก็หาโหลดได้ทั่วไปครับ  หรือดาวน์โหลดฟรีได้ที่ http://www.downloadhunt.com/song-audio-video-software/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1+WinX+Free+DVD+Ripper+%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%87+DVD+%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%86-6179.html

หลวงพ่อสาย ในหน้าหนังสืออิทธิฤทธิ์

20 มีนาคม : หนังสืออิทธิฤทธิ์ ฉบับ169 ลงภาพข่าว หลวงพ่อสาย สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดเจริญสุขาราม(บางไผ่เตี้ย) ซึ่งท่านเป็นพระเกจิอาจารย์สายมอญรามัญ มีความเก่งกล้าสามารถหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของเวทย์มนต์ การพัฒนา และการสอนธรรมะ อีกทั้งเรื่องของพิธีกรรม! หลวงพ่อสาย ได้กลายเป็นพระเกจิฯ ที่ประชาชนพูดถึงท่านกันอย่างกว้างขวางมากที่สุด ก็เมื่อครั้งที่ ท่านได้ทำพิธี เสริมธาตุ-แปรดวง ให้กับพ่อค้าผักในตลาดมหาชัย เพราะเมื่อเขากลับไปเขาก็ได้โชคถูกรางวัลที่หนึ่ง ได้เงินถึง 34 ล้าน! กลายเป็นเศรษฐีไปเลย หลังจากนั้นประชาชนจากทั่วประเทศก็รู้จักชื่อ หลวงพ่อสาย วัดเจริญสุขาราม(บางไผ่เตี้ย) กันอย่างทั่วถึง

อาหารปักษ์ใต้ (ปลาทูต้มหวาน)

20 มีนาคม 55 : วันนี้ไปเดินออกกำลังกาย ที่สวนสาธารณะ ในกระทรวงสาธารณะสุข ใช้เวลาไปประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้น จึงขับรถไปเดินซื้อกับข้าว ที่หน้า รพ.ศรีธัญญญา ซึ่งเขาจะมีจัดตลาดเช้า ทุกวันอังคาร ที่ชอบมากก็คือ มาที่นี่ จะได้ชิมอาหารปักษ์ใต้อร่อยๆ เสมอ มีเจ้าประจำเขามาวางขายอยู่วันอังคาร คนที่มาเดินตลาดนี้ส่วนใหญ่ จะเป็นเจ้าหน้าที่บ้าง หมอบ้าง ของโรงพยาบาลแห่งนี้ ดูเหมือนพวกเขาจะชอบทานอาหารปักษ์ใต้กันทั้งนั้น เพราะคิวยาวทุกครั้ง ต้องมายืนรอทุกที วันนี้เลยซื้อของชอบนี้มา 2 ตัว ปลาทูต้มหวาน สูตรปักษ์ใต้แท้ๆ ตอนอยู่บ้านที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จะได้กินบ่อยมาก เพราะคุณแม่ท่านก็ชอบทาน และ ชอบทำให้พวกเรากินเสมอ ที่สำคัญ คุณพ่อ เป็นชาวประมง ที่หาปลาได้เก่งมากๆ ได้ปลามาให้พวกเรากินกันเยอะๆ ตลอด วันนี้ได้กินของชอบ ได้นึกถึงพ่อและแม่ ก็ทำให้หัวใจสดชื่นขึ้นเยอะเลย สงกรานต์นี้ จะกลับไปเยี่ยมท่านอีกครั้ง คิดถึงครับ.....

ติดตามผลงานของผมได้ที่ www.papaidotv.com

คณะสหายเทวดา ที่วัดช้าง อยุธยา

18 มีนาคม 55 : ขอเล่าเรื่องของการออกเดินทาง ไปต่างจังหวัด เพื่อประกอบกิจพิธีเทวา ของคณะสหายเทวดาอีกครั้ง ภาพที่เห็นอยู่นี้ เป็นภาพเมื่อเดินทางไปทำพิธีที่วัดช้าง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งที่วัดแห่งนี้ พวกเราก็ได้สัมผัส กับความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่นี่ ทำให้พวกเราได้โชคกันอยู่หลายงวดเหมือนกัน และ สามารถนำพาพุทธศาสนิกชน เข้าสู่วัด ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ และ ได้รู้จักวัดเพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นคือจุดประสงค์หลักของพวกเราอยู่แล้ว เราต้องการให้ประชาชน หันหน้าเข้าวัด จะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ เราเชื่อว่า ถ้าเราสามารถทำให้คนเข้าวัดได้มากขึ้น บ่อยขึ้น จิตใจของเขา ก็จะต้องอ่อนโยน ยอมรับข้อธรรมะได้มากขึ้น และ จะสามารถเพิ่มพูน ความรู้ความเข้าใจ ในข้อธรรมะได้ทีละเล็กละน้อย  เรื่อยไป นี่คือ สิ่งที่พวกเราปรารถนาครับ

พิธีศักดิ์สิทธิ์

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม คณะสหายเทวดา นำโดยท่านอาจารย์อาวุธ แก้วเนียม ได้ไปประกอกพิธีศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดเทียนถวาย ปทุมธานี มีประชาชนเข้าร่วมด้วย เป็นจำนวนมาก

ยินดีต้อนรับ

สวัสดีครับ 18 มีนาคม 2555
พบกันที่นี่เป็นครั้งแรก ก็เพื่อจะเปิดเป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างเรา ทีมงานผู้จัดทำ รายการ ไปดูมา พาไปดู กับ แฟนรายการ และ คุณผู้ชมทางบ้าน เนื่องเพราะว่า ในโลกยุคปัจจุบัน เราเอง ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ความจำเป็นเรื่องของการสื่อสารนั้น มีความสำคัญต่อทุกคนเป็นอย่างมาก เราจึงเน้น และให้ความสนใจ ต่อการสื่อสารมากที่สุด ดังที่ได้เห็น เราได้ทำรายการ ไปดูมา พาไปดู มาเป็นเวลาร่วม 3 ปีแล้ว จึงไม่แปลก ที่จำนวนผู้ชมรายการของเรา ได้เพิ่มขึ้นๆ อย่างมากมาย และต่อเนื่อง ทำให้สถานที่ต่างๆ ที่เราได้นำมาออกอากาศ และนำเสนอเรื่องราวไปนั้น ได้เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ของพี่น้องประชาชน คนทั้งประเทศ ผ่านช่องทางสื่อสาร โดยสัญญาณดาวเทียม จานดำ ช่อง Central Channel นั่นเอง และ ด้วยความต้องการให้การสื่อสารมีอย่างหลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างทั่วถึง เราจึงได้เปิดเว็บไซต์ สำหรับออกอากาศสด ออนไลน์ และ เรียกดูภาพการออกอากาศย้อนหลังได้อย่างเต็มที่อีกด้วย เช่น ที่ http://www.papaidotv.com/   หรือที่ http://www.papaido.com/  เป็นต้น
และ นี่ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่เราสามารถ ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารถึงกันได้ ก็โปรดติดตามกันได้ ในโอกาสต่อๆไปนะครับ
จาก...อาวุธ แก้วเนียม สหายเทวดา