วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555

กาวดีๆ


29 เมษายน 2555 : ขอบันทึกไว้ว่า กาวดีๆ ที่ควรใช้แบบนี้ ต้องบอกต่อให้รู้ทั่วกัน กาวนี้ใช้งานได้สารพัด ตามที่ผู้ผลิตกาวนี้ ได้แจ้งไว้ แต่ในบทความนี้ จะบอกถึงข้อดีในการนำมาเป็นตัวยึดเกาะของมวลสาร ในการจัดทำพระเครื่องวัตถุมงคล เราอาจเคยเห็น ล็อกเก็ต และ ตะกรุด ของพระเกจิอาจารย์ท่านต่างๆมาไม่มากก็น้อย บางท่านทำได้สวยงาม ไม่หลุดไม่ร่อน บางท่านก็ร่อนหลุดง่าย โดยฌเฉพาะการนำผงมวลสาร มาอุดไว้ที่ด้านหลัง ล็อกเก็ต และ นำมวลสารมาพอกไว้กับตะกรุด นี่แหละคือสิ่งที่ทำยาก หากทำไม่ดีก็หลุดร่อนออกหมกในเวลาไม่นาน แต่ถ้าเราใช้กาวนี้ เป็นตัวผสาน โดยการนำไปผสมกับมวลสารทั้งหมด แล้วก็อุด หรือพอกเข้าไป รอให้แห้ง คราวนี้ไม่มีหลุด ไม่มีร่อนอีกต่อไป ลองทำดูสิครับ แล้วคุณจะยอมรับ ว่ามันดีจริงๆ

งานใหว้ครู หลวงพ่อสุวรรณ


26 เมษายน 2555 : วันที่ 26 เมษา เป็นวันไหว้ครู สำหรับศิษย์หลวงพ่อสุวรรณ ถิรสทฺโธ วัดยาง อ่างทอง ทุกคน หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียว สำหรับการได้น้อมรำลึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ ถึงแม้ว่าหลวงพ่อสุวรรณ ท่านจะจัดงานไหว้ครูขึ้นในวันพฤหัสแต่ว่า สานุศิษย์ก้ยังคงพร้อมใจกันมาอย่างล้นหลามเหมือนเช่นทุกๆปี นี่ถ้าท่านจัดในวันอาทิตย์ล่ะก็ ผมว่า วัดยาง จะไม่มีที่ให้เดินอย่างแน่นอน เพราะยุคนี้สมัยนี้ มีพระอาจารย์ที่เก่งๆอย่างหลวงพ่อสุวรรณอยู่น้อยมากแล้ว ประชาชนจะหาที่พึ่งพิงได้ยากเหลือเกิน พอมีข่าวว่า หลวงพ่อที่ไหนดี หลวงพี่ที่ไหนเก่ง ก็จะพยายามดิ้นรนพากันไป ขอความเมตตา และก็พบว่า มีหลวงพ่อสุวรรณนี่แหละครับ ที่ช่วยเหลือทุกคนได้จริงๆ โดยเฉพาะเรื่องค้าขาย ท่านจะให้ลูกศิษย์ใช้ตะกรุด และ ผ้ายันต์ธงพัดโบก เรียกลูกค้าเข้าร้าน ก็ปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าตื่นใจ จนได้รับคำพูดที่ทุกคนจดจำได้ก็คือ ถ้ามีตะกรุดหลวงพ่อสุวรรณแล้วล่ะก็
จะค้าขายดีไม่มีเหลือค้างเข่ง
ส่วนเรื่องของการแคล้วคลาดคงกระพันก็ต้องยกให้เป็นเลิศเช่นกัน เพราะตะกรุดของท่านทุกดอก ล้วนแล้วแต่เคยสร้างความงุนงงสงสัยให้เห็นแล้วอย่างมากมาย ทั้งยิงไม่ออก ยิงไม่โดน ยิงไม่เข้า ประสบการณ์เยอะ ข้าราชการตำรวจ ทหาร ที่รู้จักหลวงพ่อสุวรรณ จะต้องมีตะกรุดของท่านกันทุกคน แม้แต่นักการเมือง ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น จนถึง ระดับชาติ ก็ยังพกพาอาศัย ตะกรุด ของหลวงพ่อสุวรรณครับ เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกแต่อย่างใด ที่ในวันไหว้ครูในทุกๆปี เราจะเห็นมีประชาชนเดินทางไปที่วัดยาง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง กันอย่างมากมายทุกปี และนี่ก็คือสิ่งดีๆ ที่อยากจะบอกแก่ทุกๆคนครับ....

หลวงพ่อโต วัดปราโมทย์



29 เมษายน 2555 : หลวงพ่อโตซำปอกง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ แห่งวัดปราโมทย์ อ.บางคนที จ.สมุทรสาคร เป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ประชาชนในจังหวัดสมุทรสงคราม และ จังหวัดราชบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดสมุทรสาคร ให้ความเคารพกันมาก ในทุกๆวัน จะมีประชาชน เดินทางไปกราบไหว้ขอพรจากท่านกันอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะขอได้ในทุกๆเรื่องที่เดือดร้อน เน้นว่าเดือดร้อนนะครับ ใครที่เดือดร้อนท่านจะช่วยก่อนจริงๆ เช่น บางคนอยากขายที่ดิน เพราะมีความเดือดร้อนต้องใช้เงิน อย่างนี้ไปบนบานกันสักครั้งสองครั้งก็สำเร็จ แต่บางคนอยากขายที่ดินได้เหมือนกัน แต่ว่าเพียงแค่ต้องการขายด้วยเหตุผลอื่นๆที่ไม่ได้มีความเดือดร้อน อย่างนี้ก็รอนานหน่อย หรือ บางคนแต่งงานอยู่กินกันมาหลายปี แต่ไม่ยักมีลุกสักที ไปบอกหลวงพ่อโตว่าตนเดือดร้อน เพราะไม่มีลูกไว้สืบสกุล ขอให้หลวงพ่อช่วยส่งเด็กดีมาให้สักคนหนึ่งเถิด อย่างนี้ไม่นานได้ผลแน่นอน หรือบางคน ทำของสำคัญตกหล่นสูญหายไป มีความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง อย่างนี้ไปบอกหลวงพ่อโตเถอะครับ ไม่ผิดหวัง ท่านจะได้ของคืนในไม่ช้า มีประสบการณ์มาเยอะแล้วครับเรื่องนี้ หายห่วง ส่วนเรื่องโชคลาภนั้น ท่านก็จะให้แก่คนที่เดือดร้อนจริงๆเท่านั้น และอีกหลายๆเรื่อง ที่เกิดขึ้นกับหลายๆคน ที่เป็นเรื่องเดือดร้อน แล้วไปขอท่าน ท่านก็ช่วยให้หายเดือดร้อนได้ในเวลาไม่ช้าไม่นาน ในทุกๆปี จะมีการจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโตอยุ่เสมอ และเมื่อถึงงานปี วัดปราโมทย์ทีไร จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มีประชาชนไปร่วมงานกันอย่างเนืองแน่นทุกวันตลอดงาน แม้แต่คนใหญ่คนโต ในบ้านในเมืองเราหลายคน เขาก็ศรัทธา และแวะเวียนไปสักการะหลวงพ่ออยู่เสมอเช่นกัน สำหรับท่านใดจะเดินทางไปวัดปราโมทย์ ก็โทรไปสอบถามเส้นทางได้จากทางวัดนะครับ ไปไม่ยาก ถ้าตั้งใจจริง ไปให้ถึง อัมพวา ก่อน แล้วก็ไปอีกไม่ไกลแล้วล่ะครับ สำหรับเบอร์โทรศัพท์วัดปราโมทย์ก็คือ 032-399-322 และ 081-268-8903 ครับ

น้ำมันว่าน มหานิยมสุดยอด!

29 เมษายน : โชคดีอีกแล้วครับ วันนี้อาจารย์ได้รับของดี ของวิเศษ มาอีกชิ้นหนึ่งแล้วครับ ต้องบอกก่อนว่า เสาะหามานานแล้ว วันนี้ได้เจอครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง เดินทางมาจากจังหวัดพิษณุโลก ท่านบอกว่า เอามาให้อาจารย์โดยเฉพาะเลย เป็นน้ำมันว่านผสมว่านสำคัญๆ ถึง ชนิดครับ ได้แก่ ว่านสาวหลง ว่านรักซ้อนมีดอกและราก ว่านมหาเศรษฐีมีใบและราก ว่านนางล้อมเสน่ห์ร้อยนาง ว่านดอกทอง(รากราคะ) ว่านนางกาหลง(ไช้เฉพาะราก) เมื่อได้ว่านมาครบแล้ว ท่านก็จะเติมน้ำมันว่าน108 ที่หุงเอาไว้ก่อนแล้ว ลงไปอีกเล็กน้อย พร้อมสวดมนต์อีก 999 จบ เพื่อเป็นการเพิ่มพุทธคุณ ให้เข้มขลังสุดๆ ที่สำคัญ น้ำมันว่าน ขวดนี้ ท่านบอกว่าใช้ดีทางเมตตามหานิยมเป็นที่สุด และ ยังใช้ดีทางโชคลาภ และอธิษฐานขอความสำเร็จได้อีกด้วย เรียกว่า เป็นได้ครบดังที่ต้องการเลยทีเดียว ก็ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ไว้ ณ ที่นี้ด้วย ส่วนท่านใด มีความประสงค์ อยากจะได้ของดีแบบนี้บ้าง ให้ติดต่อมาที่อาจารย์อาวุธ นะครับ แต่บอกก่อนว่า ราคาไม่เบานะครับ เพราะเป็นของหายากๆทั้งนั้น บางตัว ต้องรอเป็นปีกว่าจะได้มา เพราะว่านบางชนิดต้องรอ ให้ออกดอก หรือ ให้ได้ตามตำรา ต้องรอกันเป็นปี และที่สำคัญที่สุด ก็คือ ใช้แล้วได้ผลจริงๆ แล้วโทรมาคุยกันนะครับ 089-816-6421 ครับ


April 29: Today I was lucky to get the best of the magic that is looking for a long time. He is one of my teachers. The province of Phitsanulok. Take it from me directly, this oil is an ingredient that is vital to have a total of more than 108 kinds of herbs, it can make a woman that I love. I love the cut flowers and more trees, flowers and roots, such as love nest of leaves and roots, charming wealthy women, one hundred people. Tree of love (lust, the root) when it arrived. You can add more oil into it. We end with a prayer to the dark magic. With a bottle of oil you use a type that is popular and a great way to fortune. And pray for success, working as I want to thank you for this as you want. I would like to have this great, I kind of weapon, but I tell you that expensive because it is rare for them to wait another year to come. I have to wait for some kind of fruit or flowers all year and have been the most important. It really works, then call 089-816-6421.

















วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

ยาสัม ยาครอบจักรวาล


ยาส้ม ยาครอบจักรวาล ของพระกรรมฐาน
จากหนังสืออนุสรณ์งานศพ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ก็มีการกล่าวเรื่องยาส้ม โดยคุณสุพล น่าชม ผู้ติดตามอุปัฏฐากท่านกว่า30ปีและเป็นผู้ทำยาส้มให้ท่านอาจารย์ได้กล่าวไว้เรื่องยาส้มอย่างละเอียดมาก ตั้งแต่ส่วนผสม , วิธีทำ , สรพพคุณ , การใช้ ,การเก็บรักษา , หมายเหตุ และสูตรน้ำมันผึ้งซึ่งก็เป็นยาขนานเอกของหลวงปู่ฝั้น เช่นกัน
น้ำมันผึ้ง
น้ำมันผึ้งคือน้ำมันที่กลั่นได้จากขี้ผึ้ง วิธีการกลั่นให้เอาขี้ผึ้งบริสุทธิ์หนักอย่างน้อย 1-2 กิโลกรัม ใส่ไหหรือหม้อ(ทำเหมือนกับวิธีการต้มกลั่นสุรา) แล้วกลั่นด้วยไฟที่ไม่แรงนัก ให้กลายเป็นน้ำมันออกมา เรียกว่าน้ำมันผึ้ง ใช้สำหรับทาแก้โรคต่างๆ น้ำมันที่กลั่นออกมานั้นก่อนใช้ต้องผสมกับน้ำมันอื่นเพิ่มเติมเข้าไปเสียก่อน คือ
1.)น้ำมันงา 2 ส่วน
2.)นำมันเลียงผา 2 หรือ 1 ส่วน
เอาน้ำมันสองอย่างที่กล่าวนี้ผสมกับน้ำมันผึ้งให้เข้ากันสนิท
สรรพคุณ - ใช้ทาแก้ปวดเมื่อย,เคล็ดยอกต่างๆ ใช้รักษาได้ทั้งแผลสด,แผลเปื่อย รักษาโรคกระดูกได้เป็นอย่างดีพิเศษ น้ำมันผึ้งนี้ท่านพระอาจารย์ฝั้นใช้เป็นประจำช่วยชาวบ้านให้หายจากโรคภัยมามากแล้ว
ยาแก้โรคเบาหวาน
ท่าให้เอารากหรือต้นกำแพงเจ็ดชั้น(ตะไก้) มาต้มกินแทนน้ำชา,กินวันละหลายๆครั้ง แล้วจะหาย อนึ่งถ้าชอบกลิ่นหอมให้เอาต้นยาดังกล่าวผ่าเป็นชิ้นบางๆอังไฟหรือปิ้งให้กรอบแล้วจึงต้ม ยาจะมีกลิ่นหอมชวนดื่มเป็นอย่างยิ่ง
ยาส้ม
ส่วนผสม
1.) เกลือ 2.) สารส้ม
3.) ดินปะสิว 4.) จุนสี (หาซื้อได้ตามร้านขายยาแผนโบราณ และ ร้านขายเคมีทั่วไป)
อย่างละเท่าๆกัน อย่างน้อยต้องหนักอย่างละ10บาท (150กรัม) ทั้งนี้สุดแท้แต่ภาชนะที่ใช้กลั่นจะบรรจุได้มากเท่าใด ถ้าภาชนะที่ใช้บรรจุลงได้มากจะเอาอย่างละมากๆก็ได้แต่ต้องให้มีน้ำหนักเท่ากัน ไม่ให้ขาดไม่ให้เกิน
วิธีกลั่น
การต้มกลั่นต้องใช้ภาชนะที่ทนต่อความร้อน ห้ามเอาภาชนะที่เป็นโลหะ เท่าที่ท่านพระอาจารย์ท่านเคยทำท่านใช้ไหกระเทียมสมัยเก่าที่มาจากเมืองจีน หม้อดินก็ใช้ไม่ได้ เมื่อได้ภาชนะที่จะกลั่นมาแล้วก็เอาตัวยาทั้งสี่อย่างบรรจุลงไป ไม่ต้องผสมน้ำ ใช้กลั่นแห้งๆตามสภาพของตัวยาใช้ไหกระเทียมอีกลูกหนึ่งมาเป็นภาชนะรองรับน้ำยา ใช้หลอดแก้วใสเป็นท่อต่อระหว่างปากไหทั้งสอง ถ้าไม่มีหลอดแก้วจะใช้ขวดแก้วขาวตัดก้นออกแทนก็ได้ เอาก้นขวดใส่ทางปากไหที่ใส่ตัวยาเอาปากขวดใส่ทางไหที่รองรับ ปิดปากไหทั้งสองด้วยดินเหนียวที่นวดไว้อย่างดีให้แน่นสนิท การกลั่นต้องรักษาระดับไฟในระยะแรกต้องไม่เร่งไฟให้ร้อนเกินไปอาจทำให้ระเบิดได้ ส่วนไหที่รองรับน้ำยานั้นก็ต้องใช้ความเย็นช่วยโดยเอาผ้าชุบน้ำคลุมไว้แล้วเอาน้ำเย็นรดให้เย็นอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ไอกลายเป็นหยดน้ำและช่วยดูดไอมาจากไหที่กลั่นด้วย
การกลั่นยาส้มนี้ถ้าตัวยามากก็ต้องใช้เวลามากหน่อยกว่ายาจะ"จืด"ก็ต้องเสียเวลาเป็นวันหรือทั้งวันทั้งคืน ถ้าจะดูว่ายาจืดหมดหรือยังให้สังเกตที่หลอดแก้วในตอนแรกๆจะมีควันออกมาเป็นสีขาวๆ เมื่อตัวยาถูกความร้อนจัดเข้าจะละลายแล้วเดือดเต็มที่ ควันในหลอดแก้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองๆ ถ้าเร่งไฟร้อนจัดเกินไป ควันจะเป็นสีเหลืองแก่และแดง ถ้าควันในหลอดแก้วออกเป็นสีแดงเข้มมากเกินไปให้ผ่อนไฟลงหน่อย ถ้าปล่อยนานจะเผาไหม้หมดก่อนและได้น้ำยาน้อย
ขณะกำลังกลั่นยากำลังเดือดและไอกำลังไหลออกมาตามหลอดแก้วนั้น ไหที่รองรับน้ำยาต้องรดน้ำให้เย็นตลอดเวลา ระวังอย่าให้น้ำที่ทำให้เย็นนั้นกระเซ็นไปถูกหลอดแก้ว แก้วจะแตกเสียก่อน เมื่อตัวยาหมดควันในหลอดแก้วจะกลับขาวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อตัวยาหมดแล้วให้ให้ถอยไฟออก เพื่อให้ความร้อนลดลง แล้วจึงค่อยๆแกะดินเหนียวที่หุ้มปากไหออกที่ด้านไหนก็ได้แล้วแต่สะดวก ยกไหที่รองรับน้ำยาออกตั้งไว้ แล้วหาขวดมีจุกเป็นแก้วมาบรรจุตัวยาเก็บไว้ต่อไป
สรรพคุณยาส้ม
อันยาส้มนี้เป็นยาครอบจักรวาล ใช้แก้ได้หลายอย่าง เช่นแผลสดมีดบาดหรือตะปูตำ ใช้สำลีชุบยาส้มป้ายที่แผลแผลจะหาย(แต่ต้องทนแสบเอานิดหน่อย) แผลเปื่อยก็ใช้ได้แต่ไม่ใช่หิดเปื่อยพุพอง แผลเปื่อยพุพองเวลาใส่ยาส้มจะมีอาการแสบ เมื่อหายแสบแล้วแผลจะแห้งตกสะเก็ดหายไปเอง ถ้าจะแก้โรคต่างๆเกี่ยวกับเลือดเป็นต้นว่าสตรีออกลูกแล้วอยู่ไฟไม่ได้หรือคลอดบุตรแล้วเลือดตกมากหรือเป็นมุตกิดระดูขาว,ผอมแห้งแรงน้อย,มักเป็นลมหน้ามืดตาลายฯลฯ ให้ใช้ยาส้มผสมน้ำสะอาด(ถ้าได้น้ำฝนยิ่งดี) พอให้มีรสเปรี้ยวเท่ากับน้ำมะนาวหรืออ่อนกว่านิดหน่อย รับประทานวันละครึ่งถ้วยแก้ววันละสามเวลา รับไปเรื่อยๆจะหายเป็นปกติ โรคเกี่ยวกับสตรีนั้นใช้ได้ผลมาก อนึ่งโรคปวดท้องเกี่ยวกับมดลูกแลอื่นๆใช้เห็นสรรพคุณมามากแล้ว ถ้าเป็นตาแดง,เจ็บตา,ตาแฉะ ให้เอายาส้มผสมน้ำให้มีรสพอรู้สึกเปรี้ยว หยอดตาจะหายเจ็บ,หายแฉะ,หายจากเป็นตาแดง ตามลำดับ

การใช้ยาส้มรักษาโรคภายนอก นอกจากรักษาแผลแล้วยังแก้อสรพิษต่างๆได้ดีอีกด้วย เป็นต้นว่า ตะขาบกัด,แมลงป่องต่อย,ปลาดุกยักษ์ก็เอายาส้มใส่แก้ได้ ถ้าถูกพิษตะขาบหรือแมลงป่องใช้เข็มบ่งปากแผลให้มีเลือดออกนิดหน่อยเสียก่อน แล้วเอายาส้มใส่ที่แผล ความเจ็บปวดและอาการพิษอื่นๆจะหายในทันที
สำหรับแก้ปวดฟันแมงกินฟันรากฟันเน่า ใช้สำลีชุบยาส้มแปะที่รูของฟันหรือรากฟันที่เน่า อาการปวดจะหายเป็นปลิดทิ้ง ฟันเป็นรำมะนาดและลิ้นเป็นซางก็ใช้ยาส้มใส่ได้ผลดี ลิ้นเปื่อยเป็นแผลก็เช่นกัน อนึ่งสำหรับโรคเกี่ยวกับฟันจะใช้กากของยาส้ม(ที่เหลืออยู่ในไหที่ใช้กลั่น)ก็ได้ กากนี้นำมาบดใช้แทนยาสีฟันก็ดี
การเก็บรักษา
ตัวยาส้มเป็นกรดชนิดหนึ่งจะบรรจุในภาชนะที่เป็นโลหะต่างๆไม่ได้ เช่นสังกะสี หรือ ดีบุก ถ้าเอายาส้มใส่จะทะลุภายใน 5 -10นาที ต้องใช้ภาชนะที่เป็นแก้วด้วย อย่าใช้ฝาจุกอย่างอื่นยาจะกัดผุหมด
หมายเหตุ - ถ้ายาส้มหยดถูกเสื้อผ้าให้รีบเอาไปซักน้ำโดยเร็ว มิฉะนั้นผ้าจะขาด การใช้ยาส้มรักษาโรคต่างๆนั้นห้ามใช้ตัวยาล้วนๆ นอกจากใช้รักษาแผลและแก้พิษร้ายต่างๆ ตามธรรมดาต้องเจือน้ำหลายเท่า เวลามีคนมาขอท่านพระอาจารย์มักจะให้ยาที่เจือจางไว้ก่อนแล้ว ไม่ใช่ให้ตัวยาล้วนๆเพราะเกรงว่าเอาไปใช้ไม่ถูกจะเกิดอันตรายขึ้น โดยเฉพาะการใช้ในโรคตาต้องเจือน้ำให้อ่อนที่สุด เพียงมีรสเปรี้ยวนิดหน่อยเท่านั้น
คัดจากหนังสือ "อนุสรณ์งานศพพระอาจารย์ฝั้น อาจารเถระ"
21 มกราคม2521

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

น้องปัญญ์ อยู่ รพ.

7 เมย. เป็นวันที่3. แล้วที่น้องปัญญ์ต้องนอน รพ.นนทเวช เพราะเป็นไข้-ติดเชื้อ วันแรกหมอต้องเอ็กซเรย์ปอด วิธีก็คือ จับกดลงมัดตัวให้แน่น แล้วถ่าย รวม 3 ครั้ง น้องปัญญ์ ก็ร้องดิ้นตลอดเวลา เสร็จมานั่งรอร่วมชั่วโมง แล้วจึงมาบอกว่าต้องนอน เพราะปอดอักเสบ แต่กว่าจะพาขึ้นห้อง ก็ต้องแจ้งค่าใช้จ่ายก่อน พาขึ้นมา ก็เริ่มที่ พาไปดูดเสลด วิธีก็คือ จับกดแล้วช่วยกันมัดตัวให้แน่น เอาสายยางสอดเข้าจมูก ดูดๆ น้องก็ร้องตลอด นานทีเดียว เสร็จจึงเจาะให้น้ำเกลือ ต้องเจาะ 2 ครั้ง หาเส้นไม่เจอ แสดงว่า ผู้เจาะไร้ความชำนาญ ผู้ป่วยจึงต้องเจ็บ 2 รอบ จากนั้นพามาที่ห้อง พร้อมเปลี่ยนชุด และ เสาน้ำเกลือ สักพักหมอใหญ่มาดู แล้วถามโน่นนี่ ซึ่งเป็นคำถามเดิมคือ มีไอหรือเปล่า ตัวร้อนหรือเปล่า แต่ก่อนจะออกไป หมอบอกว่า เขาจะไม่อยู่ 2 วัน ออ..เราเพิ่งจะรู้ว่า เขารับคนไข้เสร็จแล้วจะไม่อยู่ ให้คนอื่นดูแทน จากนั้นพยาบาลก็วนเวียนกันมา วัดไข้บ้าง เติมยาในสายนำ้เกลือบ้าง ซึ่งจะไม่มีการมาพร้อมกัน แต่จะวนเวียนสับเปลี่ยนกันมา เพื่อให้ดูเหมือนว่า บริการดี แต่ที่จริง มันคือการรบกวนที่สุด เพราะน้องจะร้องทุกครั้ง ที่พวกเขาเข้ามา เพราะกลัว กลัวมากจนแม้ได้ยินเสียงเปิดประตู ก็จะร้องไห้แล้ว ใครเปิดประตูเข้าหรือออก เขาจะหันไปมองดูทันทีว่าเป็นใคร ถ้าเห็นใส่ชุดขาว ก็ร้องจ้าเลย ไม่ว่าจะมาแค่ตรวจเล็กๆน้อยๆก็ตาม กลัวมาก วันแรก 5 เมย.ตัวไม่ร้อนแล้ว แต่ไม่ยอมกินอะไร เพราะพอกินปุ๊บ ก็จะไอ ปั๊บ เลยไม่กล้ากิน ย่ากับพ่อเขามาเยี่ยมเอาตอนใกล้คำ่ สักพักกลับ ย่าเขาอุ้มหน่อย แต่พ่อเขาไม่ ตอนกลับน้องปัญญ์ยกแขนข้างที่พันสายน้ำเกลือ โบกบ๊ายบายพ่อเขา ตาเห็นแล้วน้ำตาซึม แต่ไม่รู้ว่าพ่อเขาจะคิดอะไรบ้าง วันนี้เพื่อนแม่เขามากันตลอด ตาก็อุ้มให้นอนหน้าอก หัวพาดบ่าอยู่เกือบตลอดเวลา กลับไปนอนบ้านตอนห้าทุ่ม แต่คืนนี้น้องก็โดนสอดสายยางดูดเสลดอีกรอบ แม่เขาบอกว่ามีเลือดออก หมอจึงหยุด นี่แสดงว่ามีพลาดอีกแล้วสิ..อาร์มก็เข้าไปดูหลานอยู่ตลอด ทุกคนสงสารน้องปัญญ์มาก ดูเหมือนแค่เรื่องเล็กๆ เป็นไข้ ตัวร้อน เจ็บคอ แต่ดูเหมือนหมอจะคิดว่า อาการหนัก อย่างงั้น เมื่อน้องนอน ตา กับ ยายปุณย์ และอาร์ม กลับไปนอนบัาน..เช้า ตามาแต่เช้า น้องปัญญ์ตื่นเห็นรีบส่งมือให้อุ้มทันที ตาก็เอาไว้กับอกอยู่อย่างนั้น หมอจะพาไปดูดเสลดอีก ตาเห็นว่าน้องไม่ค่อยมีเสลดแล้วจึงบอกไม่ต้อง เขาก็ไม่ว่าอะไร สักพักเอายามาให้กิน ก็ต้องจับมัด จับกรอกกันเหมือนเดิม เพราะน้องปัญญ์ กินยายากมากๆ สายๆ บอกพยาบาลว่า ผ้าเทปที่พันมือตรงที่ให้นำ้เกลือ มันกัดแขนน้องจนแดง และคัน เขาก็มาทำให้ น้องได้หลับยาว 11 โมง ถึงเที่ยงครึ่ง ก็ตื่นมาพ่นยา ได้นอนต่อ ก็จะมาเช็ดตัว ก็ยังไม่ให้เช็ด ย่ากับพ่อเขามา บ่ายสอง ตื่นมาดูเหมือนกัน ก่อนลงไป เขาก็ได้เห็นการพ่นยา ที่น้องร้องไห้จ้าด้วย ย่าลงไปจ่ายค่ารักษา 20,000 กว่า อยู่จนจะ 4 ทุ่ม ตาจะเอาน้องนอนบนเตียง บังเอิญสังเกตุเห็น มือน้องบวมเป่ง เหมือนน้ำเกลือคั่งอยู่ รีบไปตามพยาบาลมาดู ระหว่างรอก็แกะผ้าเทปที่พันอยู่ น้องก็ร้องตลอด พยาบาลมาก็เลยให้เอาออก แล้วต่อว่าไป ก็เลยไม่ได้ใส่สายน้ำเกลือต่อ นี่ก็แสดงให้เห็นว่าพยาบาลไม่มีความชำนาญอีกครั้งหนึ่งแล้ว เพราะตอนที่มาเปลี่ยนผ้าเทปนั่นแหละ รัดซะแน่น จนน้ำเกลือเดินไม่สะดวก จึงบวมเป่งจนมือเกือบแตกซะอย่างนั้น นี่ถ้าไม่บังเอิญเห็น คงแย่แน่ๆ เซ็งมาก กับความไม่เป็นมืออาชีพของ รพ.นนทเวช....ตี 4 น้องปัญญ์ตัวร้อนกลับมาอีก แม่เขาเลยแจ้งหมอ คืนนี้มีอ๋อ มานอนเป็นเพื่อน ก็ช่วยกันอุ้ม หมอให้ยาฆ่าเชื้อ เจาะเข้าทางมือขวาแทนมือซ้าย ให้ยาแล้วค้างสายเอาไว้ ตามาถึง6 โมงกว่า ก็หลับกันอยู่ รอจน เกือบ 9 โมง พยาบาลจะมาให้กินยา ก็เลยเอานมให้น้องปัญณ์กินก่อน ได้หน่อยนึง จึงไปตามยาจะให้เอามาให้กิน แต่หมอมาก่อน วัดหัวใจบ้างไรบ้าง เสร็จก็บอกว่าต้องเปลี่ยนยาฆ่าเชื้อตัวใหม่ เพราะน้องตัวร้อน ตาก็เลยถามไปว่า อ้าว..ยาใช้ไม่ได้แล้วเอาให้ทำไม เขาก็พูดไปต่างๆ นาๆ แล้วบอกว่าต้องต่อสายน้ำเกลือให้ต่อ ก็ตกลง สักพักใหญ่ก็มีพยาบาลเตรียมมาต่อน้ำเกลือให้ และก็เป็นอีกครั้ง ที่เราได้เห็นความเงอะๆงะๆ ต่อสาย เสียบสาย ทำหลุด ทำหล่น แกะไม่ออก ต่อไม่เข้า ต้องไปเอาอุปกรณ์ใหม่มา สารพัดที่จะชี้ให้เห็นว่า ไม่มีความเป็นมืออาชีพ หรือสมชื่อ นนทเวชเลย....ตาก็เลยไล่ให้ไปตามคนที่เขาทำเป็นมา สักพักก็มา คนใหม่ แก้ตัวให้อย่างดีเลยว่า เขาเรียนจบจากที่โน่น ที่นี่ แล้วขอถอดสายเก่า ขอเอาตัวไปเจาะใหม่ หาที่เจาะใหม่ เพราะที่เก่ามีซึม เฮ้อ...มีอย่างนี้ด้วย ขณะที่น้องปัญญ์ก็ร้องให้อยู่ตลอด เอ้า..ตกลงเจาะใหม่ก็เจาะใหม่วะ หลวมตัวเข้ามาแล้วนี่ แม่เขาอุ้มไป รอเจาะใหม่ ให้ยาตัวใหม่ นานพอควร กลับมาห้อง ตาก็กล่อมนอนแป๊บเดียวก็หลับ คงเพลียมากๆ น่าสงสารจริงๆ ทำไมต้องมาเจออะไรที่เยอะขนาดนีี้ เราก็หวังพาลูกพาหลาน พา ญาติมา รพ.นี้ตลอด แต่คราวนี้เป็นครั้งแรก ที่มีความรู้สึกไม่ดีมากๆ กับ นนทเวช. ตามความรู้สึกก็คือ 1.ไม่มีความชำนาญ กับการดูแลรักษาผู้ป่วยเด็ก 2.เลี้ยงไข้ ให้ยาไม่ตรงจุด เด็กเจ็บคอ-ไอ กินไม่ได้ แต่เน้นอยู่ที่ดูดเสลดๆ ให้ยาฆ่าเชื้อแล้วก็เปลี่ยนตัวยา แสดงว่าขาดความรู้ในคุณสมบัติยา หรือรู้แต่ขอเลี้ยงไข้ไว้ก่อน เพราะคนไข้มีน้อย เรามาอยู่ 2 วัน ท่านเก็บไปแล้ว 20,000 กว่า 3.การไม่เข้าใจคนไข้เด็ก เพราะมักจะมีพยาบาลวนเวียน มาทำโน่นนี่ บ่อยมาก ไม่เป็นอันได้หลับได้นอน ทำไมไม่มาพร้อมๆกัน จะเหตุผลใดก็ตาม ถ้าคิดถึงคนไข้เป็นสำคัญ ก็ต้องมีวิธี....สรุปว่าถึงขณะนี้ เราไม่พอใจ การให้บริการ ของ โรงพยาบาล นนทเวช เสียแล้ว อยากย้าย และไม่อยากฝากกายฝากไข้ ไว้กับที่นี่อีก หากผู้บริหารทราบ ก็ควรหาวิธีปรับปรุง เสีย ถึงแม้คุณจะคิดว่า การกระทำต่างๆของคุณที่เกิดขึ้นมันถูกต้องแล้วก็ตาม สิ่งที่คุณควรทำก็คือ อย่าให้คนไข้คนอื่น มีความรู้สึกเช่นเดียวกับเราอีก.....ขอบคุณ

วันอาทิตย์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2555

บทเพลง โดนใจ ในบางเวลา

บทเพลง...ตากน้ำตา ศิลปิน พจน์ สุวรรณพันธ์
พรุ่งนี้ ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นทางเก่า แต่ชีวิตเหงาๆของฉันไม่รู้จะเดินไปทิศทางใด เมื่อไม่มีเธอแล้ว คนที่รักปานดวงใจ ทุกอย่างที่เคยวาดไว้ ก็พังภายในพริบตา หมดปัญญาจะเหนี่ยวรั้ง หมดพลังจะเดินต่อไป เพิ่งรู้ว่าฉันอ่อนแอแค่ไหน เมื่อมีน้ำใสๆมันไหลผ่านตา จะอยู่เผชิญความเหงา ต่อไปได้สักกี่น้ำ แล้วแต่เวรหรือกรรมจะนำพา เพราะฝากทั้งชีวิตไปผูกติดกับเธอเกินกว่า จะถอนหัวใจกลับมา เป็นฉันคนเดิมอีกครั้ง พรุ่งนี้ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นทางเก่า ถ้าชีวิตเหงาๆของฉันตื่นมายังคงมีลมหายใจ ก็จะกัดฟันฝืน เริ่มต้นกับเช้าวันใหม่ ให้แสงแดดส่องหัวใจ ที่เปียกชุ่มด้วยน้ำตา ให้แสงอาทิตย์ส่องใจ ฉันจะตากน้ำตา..